ล่อง“เรือมโนราห์” ท่องเจ้าพระยา ชิมอาหารเลิศรส

ล่องเรือมโนราห์ในลำน้ำเจ้าพระยา
       แม้ว่าฤดูหนาวในกรุงเทพฯ จะไม่ได้หนาวเย็นเหมือนในต่างจังหวัด แต่ก็พอจะมีลมพัดมาเย็นๆ บ้าง โดยเฉพาะบริเวณริมน้ำเจ้าพระยายามค่ำคืน ที่มีบรรยากาศสบายๆ และทิวทัศน์งดงามจากแสงไฟที่ประดับประดาอยู่ตามสถานที่สำคัญต่างๆ ซึ่งก็ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งวันได้เป็นอย่างดี
      
       และเพื่อการผ่อนคลายที่สมบูรณ์แบบ “ตระเวนกิน” จึงขอพาท่านนักกินไปล่องเรือ ลิ้มรสอาหารมื้อค่ำที่เลิศรส และดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนบนสายน้ำเจ้าพระยากันที่ “เรือมโนราห์” ของโรงแรม “แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา กรุงเทพฯ”
บรรยากาศภายในเรือ
       โดยที่ “เรือมโนราห์” ลำนี้ จะพาล่องแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มตั้งแต่ที่ท่าเรือของโรงแรม เวลาประมาณ 19.30 น. ล่องขึ้นไปทางทิศเหนือ ผ่านสะพานตากสิน ชมบรรยากาศยามค่ำคืนริมแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ วัดอรุณราชวราราม วัดพระศรีรัตนศาสดาราม สะพานพระรามที่ 8 จนถึงวัดราชาธิวาสราชวรวิหาร แล้วจะล่องกลับในเส้นทางเดิมกลับสู่โรงแรม ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณสองชั่วโมงครึ่ง ซึ่งผู้ที่มาล่องเรือสามารถขึ้นและลงเรือได้ทั้งที่ท่าเรือของโรงแรม และท่าเรือสาทร (ตากสิน)
ทิวทัศน์ริมน้ำเจ้าพระยายามค่ำคืน
       สำหรับอาหารที่จะเสิร์ฟบนเรือนั้น จะเป็นเซ็ทอาหารไทยต้นตำรับที่ปรุงกันสดๆ ในเรือ มีให้เลือกระหว่าง โกลด์เมนู (1,990 บาท++) ที่มีอาหาร 9 รายการ และซิลเวอร์เมนู (1,400 บาท++) ที่มีอาหาร 7 รายการ โดยจะผลัดเปลี่ยนเมนูอาหารในแต่ละเซ็ทในทุกสัปดาห์ เรียกได้ว่าในแต่ละอาทิตย์ก็จะได้ลองลิ้มอาหารที่แตกต่างกันไป
      
       ผู้ที่จะมาล่องเรือสามารถโทรมาสอบถามก่อนได้ว่าในวันนั้นจะเสิร์ฟ เมนูอะไรบ้าง หรือหากไม่กิน หรือแพ้อาหารชนิดใด ก็สามารถแจ้งให้พนักงานทราบล่วงหน้า เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนเมนูอาหารได้ และยังสามารถจองเรือแบบเป็นส่วนตัว เพื่อจัดเลี้ยงฉลอง หรืองานพิธีต่างๆ ได้ด้วย
หลนแหนม
       ส่วนอาหารที่ “ตระเวนกิน” จะแนะนำในวันนี้ ได้เลือกเอาเมนูเด็ดๆ จากโกลด์เมนูมาให้ได้ยลกันก่อน เริ่มกันที่เมนูเรียกน้ำย่อย ที่จะเสิร์ฟเป็นจานแรกเมื่อล่องเรือ นั่นคือ หลนแหนม ที่จะใช้กะทิมาเคี่ยว ใส่หมูสับ หอมแดง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดและแหนมหมู เคี่ยวจนเข้ากัน เสิร์ฟพร้อมกับผัดสด ที่กินคู่กันแล้วหอมอร่อยกลมกล่อมดี
เมี่ยงคำ
       ต่อด้วยอีกหนึ่งเมนูเบาๆ อย่าง เมี่ยงคำ ที่ครบเครื่องเครา ทั้งใบชะพลู มะนาว หอมแดง ขิง พริกขี้หนูซอย กุ้งแห้ง และถั่วลิสงคั่ว กินคู่กับน้ำเมี่ยงที่ทำจากน้ำตาลปี๊บ มะพร้าวป่น กะปิ และส่วนผสมอื่นๆ รวมถึงน้ำผึ้งที่ช่วยให้ได้กลิ่นหอมชวนกิน ซึ่งได้ชิมแล้วก็ทั้งหอม ทั้งมัน แต่ไม่หวานมากเกินไป
ต้มยำกุ้ง
       ตามมาด้วยเมนูเด่นของอาหารไทย ต้มยำกุ้ง ที่ใช้กุ้งแชบ๊วยขนาดพอเหมาะมาต้มกับเครื่องต้มยำต่างๆ เป็นต้มยำน้ำใส รสชาติกลางๆ ไม่เข้มข้นเกินไปนัก เพื่อชาวต่างชาติลิ้มรสกันได้
      
       กุ้งลายเสือราดซอสมะขาม ที่เลือกเอากุ้งลายเสือตัวโตไปฉ่าในน้ำมันให้พอสุกและมีสีสวย จากนั้นราดด้วยซอสมะขามที่ปรุงขึ้นมาพิเศษ รสชาติออกเปรี้ยวๆ หวานๆ กินคู่กับเนื้อกุ้งที่สดอร่อย
กุ้งลายเสือราดซอสมะขาม
       ส่วน ปลากะพงผัดฉ่า จานนี้ก็ใช้เฉพาะเนื้อปลากะพงที่แล่มาแบบไม่มีก้าง มาทอดให้พอสุก เพื่อคงรสชาติหวานฉ่ำของเนื้อปลา แล้วนำไปผัดรวมกับเครื่องผัดฉ่าที่เต็มไปด้วยสมุนไพรนานาชนิด กินคู่กับข้าวสองสี ซึ่งก็คือ ข้าวขาวหอมมะลิ และข้าวกล้องหอมมะลิ ที่เสิร์ฟมาร้อนๆ หอมกรุ่น
ปลากะพงผัดฉ่า
       อิ่มแล้วก็มาปิดท้ายกันที่ ข้าวเหนียวมะม่วง ที่มีทั้งข้าวเหนียวมูลหอมๆ มะม่วงน้ำดอกไม้หวานกำลังดี เสิร์ฟพร้อมกับลูกชุบ และไอศกรีมที่หมุนเวียนรสชาติให้ได้ลองชิมกัน
      
       “ตระเวนกิน” เชื่อว่า หากได้มาลองล่องเรือเหมือนกับเราแล้ว จะได้ทั้งความอิ่มอร่อยกับอาหารไทยเลิศรส และชื่นชมกับบรรยากาศเจ้าพระยายามค่ำคืนที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ที่จะอิ่มเอมใจไปอีกแสนนาน
ข้าวเหนียวมะม่วง
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       “เรือมโนราห์” เปิดให้บริการล่องเรือทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.30-22.00 น. เริ่มต้นจากท่าเรือมโนราห์ของโรงแรมแมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา กรุงเทพฯ โดยสามารถเดินทางจากสะพานตากสินข้ามมายังฝั่งธนบุรี เมื่อลงสะพานแล้วให้เลี้ยวซ้ายแล้ววิ่งตรงไปจนเจอสามแยก ให้เลี้ยวขวา ตรงไปตาม ถ.เจริญนคร จนถึงเจริญนคร 59 จะเห็นโรงแรมอยู่ทางซ้ายมือ หรือหากเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS หรือเรือด่วนเจ้าพระยา ให้ลงที่สะพานตากสิน แล้วใช้บริการเรือรับส่งของทางโรงแรมข้ามมา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และจองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ โทร. 0-2476-0022 ต่อ 1416