"T.House" เลิศรสอาหารเวียดนาม

บรรยากาศภายในร้าน T.House
       สำหรับนักกินทั้งหลายที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ อาหารเวียดนามนับว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพไม่น้อย เพราะส่วนใหญ่อุดมไปด้วยพืชผักสมุนไพร ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจยิ่งของบรรดานักกินเพื่อสุขภาพทั้ง หลาย ที่ตัวของ "ตระเวนกิน" เองก็ชื่นชอบในรสชาติของอาหารเวียดนามไม่น้อย
      
       ดังนั้นในมื้อรักสุขภาพมื้อนี้ "ตระเวนกิน" จึงอยากจะชวนผู้ที่รักสุขภาพทั้งหลายไปตระเวนกินอาหารเวียดนามรสเยี่ยมกันที่ ร้าน "T.House" ที่ตั้งอยู่ตรงซ.พหลโยธิน 5หรือซ.ราชครู ร้านนี้เป็นร้านอาหารเวียดนามขนาดใหญ่เปิดให้บริการความอร่อยมากว่า 20 ปีแล้ว เริ่มแรกเดิมทีนั้น ร้านT.House ตั้งอยู่ตรง ซ.อารีย์ 3 และย้ายมาที่ ซ.ราชครู ปัจจุบันร้านที่ย้ายมาเปิดขายได้ประมาณ 7 ปีแล้ว
บรรยากาศห้องส่วนตัว
       สำหรับอาหารเวียดนามของร้านนี้ เป็นสูตรของชาวเวียดนามแท้ๆ ที่นำมาประยุกต์รสชาติให้เข้ากับลิ้นของคนไทยมากขึ้น วัตถุดิบต่างๆ ที่นำมาใช้นั้นคัดเลือกคุณภาพมาเป็นอย่างดี ผักสดที่ใช้เป็นส่วนประกอบหลักและเครื่องเคียงในอาหารจานต่างๆ ก็ใช้ผักปลอดสาร ที่มั่นใจได้ว่าปลอดภัยกับนักกินทุกคน
      
       เมื่อมาถึงร้านและเดินเข้ามาหาโต๊ะที่นั่งในมุมที่ถูกใจได้แล้ว ทางร้านจะเสิร์ฟตะกร้าผักสดๆ ที่เป็นเครื่องเคียงของอาหารจานต่างๆ ทันทีรวมถึงยังมีน้ำจิ้มแครอท ที่มีส่วนผสมของแครอท หัวไชเท้า พริกสด ปรุงรสให้ออกเปรี้ยวหวาน กินคู่กับอาหารเวียดนามได้เกือบทุกจาน
ขลุ่ยปู
       จากนั้นก็ลงมือสั่งอาหารจานเด็ดมาชิมกันได้เลย ซึ่งในมื้อนี้เราขอแนะนำอาหารเวียดนามจานเด็ดที่ได้ลองลิ้มจนติดใจและขอนำ มาบอกต่อให้ได้มากินกันก็มีอยู่หลายเมนู นำเสนอ ขลุ่ยปู (150 บาท) มาลองชิมเป็นจานแรก ขลุ่ยปูจานนี้ มีส่วนผสมของเนื้อปู เนื้อหมูสับ นำมาปรุงรส แล้วห่อม้วนด้วยแป้งโรตีให้เป็นแท่งยาวๆ แล้วนำไปทอดจนเหลืองกรอบ กินคู่กับน้ำจิ้มหวาน ที่มีถั่วบดและพริกตำผสมเข้าด้วยกัน ตัวขลุ่ยปูกรอบนอก ไส้ในอร่อยกลมกล่อม หอมหวนชวนกิน ได้รสปูทุกคำที่กัดกิน
ขนมถ้วยหน้าหมู
       ต่อด้วย ขนมถ้วยหน้าหมู (120 บาท) หน้าตาเหมือนขนมถ้วยบ้านเรา แต่ต่างกันที่ตัวแป้ง เป็นแป้งล้วนๆ ไม่มีรสหวาน และกินคู่กับหน้าหมูสับ ซึ่งเป็นหมูสับผสมกับเห็ดหูหนู แครอท และหอมหัวใหญ่ นำมาปรุงรสผัดให้สุก แล้วราดบนตัวแป้ง กินคู่กับน้ำจิ้มหวาน กินแล้วเนื้อแป้งเหนียวนุ่ม หน้าหมูออกรสเค็มเล็กน้อย หอมกลิ่นต้นหอมที่โรยหน้า
ข้าวเกรียบปากหม้อญวน
       เมนูถัดมาคือ ข้าวเกรียบปากหม้อญวน (หมู 120 บาท / กุ้ง 150 บาท) ที่สามารถเลือกได้ว่าจะกินไส้หมู หรือไส้กุ้ง ส่วนที่ได้ลิ้มลองเป็นไส้หมู ซึ่งเป็นไส้เดียวกับที่ราดอยู่บนขนมถ้วยหน้าหมู แต่ห่อด้วยแป้งขนมเบื้องญวนแทน และโรยหน้าด้วยหมูยอหั่นเป็นเส้นๆ และหอมเจียว ชิมแล้วตัวแป้งนุ่มเหนียวเข้ากันกับไส้หมูที่ออกกลมกล่อม และเพิ่มรสชาติด้วยน้ำจิ้มหวาน หรือน้ำจิ้มแครอทถูกปากจริงๆ
ขนมเบื้องญวน
       ตามติดมาด้วย ขนมเบื้องญวน (120 บาท) ที่สามารถเลือกไส้หมู, ไก่, หรือ กุ้ง ก็ได้ โดยตัวไส้จะนำมาผัดกับถั่วงอก ต้นหอม แครอท และกุ้ยช่าย ปรุงรส แล้วห่อด้วยแผ่นแป้งพับครึ่งที่ทำจากแป้งผสมกับขมิ้น ผงกะหรี่ และไข่ไก่ เป็นแผ่นแป้งที่บางกรอบ ตัวไส้หอมกลิ่นของกุ้ยช่าย ส่วนรสชาติออกเค็มนิดๆ หวานเล็กน้อย และกินกับอาจาดเปรี้ยวๆ หวานๆ ช่างแกล้มเข้ากันดีนักเชียว
สลัดปลาฮานอย
       จากนั้นมากินเมนูปลาเพื่อสุขภาพชื่อว่า สลัดปลาฮานอย (450 / 500 บาท) ทางร้านนำปลากระพงมาทอด แล้วราดด้วยน้ำยำสามรส ที่มีส่วนผสมของสับปะรส แอปเปิ้ล ฝรั่ง ชมพู่ องุ่น มะเขือเทศ แครอท กุ้งแห้ง ถั่วลิสง และพริกซอย กินคู่กับหมี่ขาวลวก และผักดองแก้เลี่ยน เมนูนี้รสชาติอร่อยติดใจ ปลาสดหวานกรอบนอกนุ่มใน เข้ากับน้ำราดรสเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ดแบบกลมกล่อม และได้ประโยชน์จากผลไม้นานาชนิดๆ
สุกี้เวียดนาม
       เปลี่ยนมาซดน้ำกันบ้างกับเมนูนี้ สุกี้เวียดนาม (300 บาท) เป็นที่ขึ้นชื่อลือชาด้วยความอร่อยสูตรเฉพาะ ซึ่งน้ำซุปที่ใช้นั้นจะใช้น้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าวอ่อนผสมกับน้ำซุปกระดูก หอมหัวใหญ่ ตะไคร้ และใบโหระพา เคี่ยวจนได้น้ำซุปรสหอมหวาน ส่วนเครื่องสุกี้ก็จะมี กุ้ง ปลาหมึก เนื้อไก่ ตะไคร้ มะม่วง พริก กระเทียม แตงกวา และกล้วยดิบ จะกินแบบสุกี้ทั่วไปๆ หรือกินแบบนำเครื่องมาห่อกับเส้นขนมจีน แผ่นแป้งและผักกาดหอม ห่อเป็นคำจิ้มน้ำจิ้มกะปิสูตรเฉพาะ ได้รสชาติเค็มๆ เผ็ดๆ ได้กลิ่นหอมสมุนไพร และซดน้ำซุปร้อนๆ รสหวานกลมกล่อมคล่องคอดี
กล้วยหอมทอด
       เหล่านี้คือเมมนูที่นำมาแนะนำบอกล่าว แต่ว่าทางร้านก็ยังมีอาหารเวียดนามอร่อยๆ ไว้คอยบริการอีกหลากหลายเมนู อาทิ กุ้งพันอ้อย (ชิ้นละ 80 บาท) ปลาแรดฮานอย ( 400 บาท) แหนมเนือง (ชุดละ 200 บาท) เส้นหมี่หมูย่าง (120 บาท) ก๋วยจั๊บเวียดนาม (120 บาท) เรียกว่าหากนักกินท่านไหนนึกอยากจะดูแลสุขภาพด้วยการเลือกกินอาหารเวียดนามขึ้นมาบ้าง ก็พามากันได้ที่ร้าน “T.House” แห่งนี้ขอบอกว่าไม่มีคำว่าผิดหวังทั้งด้วยรสชาติอาหารที่ดี และบรรยากาศร้านที่ชวนนั่งสบายๆ