สปสช.ยันโครงการ 30ฯ คืนชีพไม่ช่วยแก้ปัญหาการเงิน !!

ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 กรกฎาคม 2554 17:42 น.
 สปสช.ยันโครงการ 30 รักษาทุกโรค ฟื้นชีพ ไม่ช่วยแก้ปัญหาการเงิน ขอรอฟังนโยบายรัฐบาลใหม่ออกเกณฑ์ผู้ยากไร้ที่ต้องยกเว้น
      
       นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลชุดใหม่พรรคเพื่อไทย ประกาศหนึ่งในนโยบาย ว่า จะให้สปสช.กลับมาเก็บค่ารักษาครั้งละ 30 บาทเหมือนเดิม ว่า โดยหลักการขั้นตอนกระบวนการเก็บค่ารักษาไม่ยากอะไร สถานพยาบาลสามารถทำได้ทันที แต่ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ ระบุว่า เป็นอำนาจของคณะกรรมการตามมาตรา 5(2) ว่า คณะกรรมการกองทุนฯ มีอำนาจในการกำหนดการร่วมจ่ายในอัตราที่กำหนด แต่ต้องยกเว้นผู้ยากไร้ ทำให้แนวทางปฏิบัติในการร่วมจ่าย ต้องมีเกณฑ์ที่ชัดเจนว่า ใครคือกลุ่มที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องร่วมจ่าย ซึ่งรัฐบาลต้องระบุว่า ใครคือกลุ่มยากไร้ ใช้เกณฑ์อย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาใช้กระบวนการของชุมชนเพื่อกำหนดเกณฑ์ ว่า ใครในชุมชนที่ต้องได้รับการยกเว้นบ้าง
      
       เลขาธิการ สปสช.กล่าวต่อว่า ในปีที่ผ่านมามีการร่วมจ่าย 30 บาทนั้น ทำให้อัตราการเข้ารับบริการผู้ป่วยนอกอยู่ที่ 130 ครั้งต่อปี แต่สามารถเก็บค่าบริการได้ครึ่งหนึ่งของผู้เข้ารับบริการ คิดเป็นมูลค่า 2 พันล้านบาท ปัจจุบันการเข้าใช้บริการอยู่ที่ 150 ครั้งต่อปี หากเก็บค่าบริการได้ครึ่งหนึ่ง ก็เป็นจำนวน 2 พันล้านนิดๆ ซึ่งในแง่การแก้ปัญหาสภาพคล่องในระบบ คงไม่สามารถช่วยได้มาก เพียงแต่บรรเทาปัญหาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งก็จะเป็นเงินบำรุงของแต่ละโรงพยาบาลไป แต่เงินที่ใช้บริหารส่วนใหญ่คือเงินจากส่วนกลาง
      
       “การกำหนดเงื่อนไขการร่วมจ่ายที่ผ่าน มา ไม่ได้ต้องการเพื่อให้ได้รับเงินมาใช้ในระบบอย่างเพียงพอ แต่ต้องการให้ประชาชนไม่เข้ารับบริการเกินความจำเป็นเท่านั้น ฉะนั้น การร่วมจ่ายดังกล่าวยังคงไม่สามารถแก้ปัญหาสถานะทางการเงินได้อยู่ดี ทั้งนี้การร่วมจ่ายที่ 30 บาททำเพื่อไม่ให้ประชาชนเข้ารับบริการเกินความจำเป็นเท่านั้น ไม่ได้หวังให้เป็นรายได้หลัก ส่วนจะจัดเก็บเมื่อไหร่ อย่างไรนั้น อยากให้รอฟังนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ที่ชัดเจนก่อน” เลขาธิการ สปสช.กล่าว

credit http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000085763