โรคร้าย...เร้นกายภายใต้มัดกล้าม


ผู้ชาย

โรคร้าย...เร้นกายภายใต้มัดกล้าม (ชีวจิต)

          ตรงกันข้ามกับความคิดที่ว่า เพศชายเป็นเพศที่แข็งแรงนี่เอง ทำให้ผู้ชายมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรคและอุบัติเหตุ และแต่ละช่วงวัยก็จะมีพฤติกรรมเสี่ยงที่ต่างกัน ลองมาดูกันว่าชายไทยในแต่ละช่วงวัย เจ็บป่วยอย่างไม่ควรจะเป็นด้วยสาเหตุใดบ้าง เพื่อเป็นแนวทางป้องกันและรักษาสุขภาพของคนที่คุณรักและเพื่อตัวคุณเอง

ต้นเหตุแห่งการสูญเสียของชายวัยทำงาน (20-35 ปี)

          ชายวัยนี้มักมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วยความโลดโผน และนิยมตัดสินปัญหาด้วยความรุนแรง จึงเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยสาเหตุต่าง ๆ ทั้งอุบัติเหตุ อาชญากรรม และฆาตกรรม ซึ่งสาเหตุที่มาเป็นอันดับหนึ่งคืออุบัติเหตุทางรถยนต์ อันมาจากความประมาทเลินเล่อ เมาแล้วขับ

อย่างไรก็ตามการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุก็ทำได้ไม่ยาก ดังนี้

การป้องกัน

          คาดเข็มขัดนิรภัยเสมอเมื่อขับรถ

          ขับรถด้วยความระมัดระวัง

          รักษากระจกรถและหน้าต่างรถให้สะอาดอยู่เสมอ

          อย่าขับรถเมื่อร่างกายไม่พร้อม

          หมั่นเอารถไปตรวจสภาพสม่ำเสมอ

          จัดที่นั่งในรถเฉพาะสำหรับเด็ก

          อย่าขับรถกระชั้นชิด

          ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างสม่ำเสมอ

          อย่าวอกแวกขณะขับรถ

          เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินให้พร้อมเสมอ

          นอกจากการป้องกันดังกล่าวแล้ว คาถาสำคัญที่เป็นยันต์ป้องกันอุบัติเหตุได้ชะงัดนักก็คือ "เมาไม่ขับ" และ "(คนขับ) เมาไม่นั่ง"ค่ะ

ไวรัสร้ายคร่าชีวิตวัยกลางคน (35-60 ปี)

          ชายกลุ่มนี้ที่มักออกไปหาความสำราญนอกบ้านกับหญิงอื่น ซึ่งไม่ใช่ภรรยาตน มีอัตราเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีสูงกว่าชายวัยอื่น ๆ เนื่องเพราะไม่ใส่ใจที่จะป้องกันตัวเองอย่างจริงจัง ด้วยการสวมถุงยางอนามัย กับเหตุผลเพียงว่าไม่มีความสุข หรือไม่ถนัด จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประสบปัญหาการติดเชื้อเอชไอวี และทำให้ชายวัยนี้ถูกคร่าชีวิตด้วยโรคเอดส์มากที่สุด

สาเหตุ เชื้อเอชไอวีสามารถแพร่เข้าสู่ร่างกายของคนได้ 3 ทางคือ

          1. ทางเพศสัมพันธ์

          2. ทางเลือด เช่น การรับหรือให้เลือด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน

          3. การแพร่จากแม่มาสู่ลูก

อาการของผู้ป่วยโรคเอดส์ที่สังเกตได้ง่ายก็คือ

          อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด

          ต่อมน้ำเหลืองโต

          มีแผลในปากและตามผิวหนัง

          เป็นโรคติดเชื้อต่าง ๆ โดยเฉพาะปอดบวมจากพยาธิ เชื้อรา วัณโรค

          เป็นมะเร็งของต่อมน้ำเหลือง เม็ดเลือด และสมอง ฯลฯ

          มีไข้นานเป็นเดือน ๆ

          ท้องเดินเรื้อรังจากโรคพยาธิ

          มีอาการทางสมอง เช่น ชัก อัมพาต

การรักษา

          ปัจจุบันยังไม่มียาชนิดใดที่สามารถรักษาโรคเอดส์ให้หายขาดได้ การรักษาส่วนใหญ่จึงเป็นการรักษาโรคติดเชื้ออื่นๆที่แทรกซ้อน ซึ่งไม่ค่อยได้ผลนัก เพราะผู้ป่วยขาดภูมิต้านทาน และมักเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อ

การป้องกัน

          ไม่สำส่อนทางเพศ ควรสวมถุงยางอนามัยเวลาร่วมเพศกับคนแปลกหน้า พยายามอย่าเปลี่ยนคู่นอนในหมู่รักร่วมเพศ อย่าร่วมเพศกับผู้ป่วยหรือสงสัยว่าเป็นโรคเอดส์

          ก่อนรับการถ่ายเลือด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้บริจาคเลือดไม่มีเชื้อโรคเอดส์

          อย่าใช้เข็มฉีดยาที่ไม่สะอาด หรือร่วมกับผู้ติดยาเสพติด

          รักเดียวใจเดียว คือคาถาสุดขลังและเกราะป้องกันภัยชั้นดีจาก "เอดส์" โรคร้ายภายใต้ร่มผ้าค่ะ

บุหรี่ตัวร้ายทำลายวัยชรา (60 ปีขึ้นไป)

          ในชายวัย 60 ปีขึ้นไป กลุ่มโรคที่มักพบได้บ่อยก็คือ โรคมะเร็ง รองลงมาคือโรคในระบบไหลเวียนเลือด และโรคเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ โดยเฉพาะโรคเบาหวาน นอกจากนั้นคนวัยนี้ก็ยังมีโรคเฉพาะ คือ โรคเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ เช่น ต่อมลูกหมากโต มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งอัณฑะเป็นต้น

          ในอดีตหากไม่นับรวมโรคเกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธุ์แล้ว โรคที่พบมากในชายวัยนี้คือ โรคมะเร็งตับ ทว่าปัจจุบันมะเร็งปอดคือ โรคที่กำลังคุกคามสมรรถภาพ และชีวิตของประชากรชายวัยชราทั่วโลกเป็นอันดับ 1 รวมทั้งประเทศไทยเราด้วย

สาเหตุ

          สาเหตุ สำคัญที่ผู้ชายวัยนี้มักจะเป็นมะเร็งปอด คือ สูบบุหรี่จัดซึ่งจะเริ่มสูบมาตั้งแต่ช่วงเป็นวัยรุ่น และกลับใจเลิกตอนวัยกลางคนแต่ส่วนใหญ่เลิกไม่ได้ เพราะสูบหนักมากจนกระทั่งแก่ตัวก็ยังสูบอยู่ นอกจากการสูบบุหรี่แล้วยังเกิดจากการทำงานที่ต้องสัมผัสกัมมันตภาพรังสี สารก่อมะเร็งต่าง ๆ อาการไอเรื้อรัง เป็นไข้หวัดแล้วไอไม่หาย เป็นต้น

อาการ

          ในระยะเริ่มต้นอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย และค่อยๆมีอาการเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ ไอและหายใจถี่เจ็บหน้าอก และมีโรคแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม หลอดลมอักเสบ เสียงแหบ ไอมีเสมหะ เสียงแหบ และอาจมีเลือดปน นอกจากนั้นก็มีน้ำหนักลด หอบและไอร่วมด้วย เหล่านี้คือสัญญาณเตือนว่าเริ่มเข้าสู่ห้วงอันตรายแล้ว ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

การป้องกัน

          ไม่สูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีการสูบบุหรี่

          ลดปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่น ผู้ที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม หรือเหมืองแร่ ควรมีผ้าปิดจมูก

          ใช้เคมีในการป้องกัน ทั้งสารที่มีในธรรมชาติ และสังเคราะห์ เช่น แอลฟา โทโคฟิรอล เบต้าแคโรทีนธรรมชาติ วิตามินเอ เป็นต้น

          การสูบบุหรี่คือปัจจัยเสี่ยงอันดับต้น ๆ ของสาเหตุการเป็นมะเร็งปอด เมื่อรู้ดังนี้แล้วคุณยังจะดันทุรังสูบบุหรี่ต่อ หรือจะพยายามลด ละ และเลิกให้เด็ดขาดเพื่อรักษาชีวิตให้อยู่ต่อไปให้นาน

          สำหรับ ผู้ (ชาย) ที่รักสุขภาพทั้งหลาย นอกจากจะระมัดระวังในการดำเนินชีวิตมากขึ้น ด้วยการหยุดพฤติกรรมเสี่ยงที่กล่าวมาข้างต้น วิธีหนึ่งซึ่งสามารถทำได้ง่ายที่ชีวจิตอยากแนะนำ คือ การ ดูแลภูมิชีวิตของตัวคุณให้แข็งแรง โดยการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ รวมทั้งทำจิตใจให้แจ่มใส เพราะถ้ามัวชะล่าใจว่าวง แขนกล้ามเป็นมัด ๆ นั้นจะช่วยคุ้มกันโรคภัยให้คุณได้อย่างตลอดรอดฝั่งแล้วละก็ ขอเตือนว่าคุณกำลังคิดผิดถนัดค่ะ


http://health.kapook.com/view6928.html
ขอขอบคุณข้อมูลจาก