เตือน! ใช้ก๊อบแก๊บแทน ถุงยางอนามัย เสี่ยงติดเชื้อ







ถุงก๊อบแก๊บปลุกห้ามนร.มีเซ็กซ์(ไทยโพสต์)


           "สธ." ชี้กรณีนักเรียนใช้ถุงก๊อบก๊อบแทนถุงยางเวลามีเพศสัมพันธ์ เป็นพฤติกรรมไม่ปกติและอยากลอง ไม่ใช่พฤติกรรมทั่วไป เพราะการเข้าถึงถุงยาง ไม่ใช่เรื่องยาก เตือนอาจเกิดบาดแผลและติดเชื้อได้ ศธ.ล้อมคอกสร้างมาตรการ "NO SEX" ในวัยเรียน เล็งปรับหลักสูตรสร้างความรู้ความเข้าใจตั้งแต่ระดับประถม
          
           จากกรณีที่นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาเปิดเผยผลงานวิจัยเรื่องเด็กและเยาวชนในมิติวัฒนธรรม รวมทั้งศึกษาปัญหาของเด็ก และเยาวชนในยุคปัจจุบัน โดยระบุว่าจากการเก็บข้อมูล ครูจากภาคอีสานกลุ่มหนึ่งที่ร่วมจัดทำโฟกัส กรุ๊ป ระบุว่าพบนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ม.1-ม.3 ในเขตภาคอีสานนิยมใช้ถุงพลาสติกแทนถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์ และบางคนใช้ถุงก๊อบแก๊บแทนถุงยางอนามัยของจริง
    
           นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ตนได้สั่งการไปยังสำนักโรคเอดส์ กรมควบคุมโรค ร่วมกับเอ็นจีโอที่เป็นเครือข่ายทำงานร่วมกับ สธ.ให้ร่วมตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งได้ข้อมูลว่าพฤติกรรม ดังกล่าวไม่น่าจะเป็นพฤติกรรมโดยทั่วไป แต่น่าจะเป็นกรณีไม่ปกติและอยากลองมากกว่า ซึ่งการนำถุงก๊อบแก๊บมาใช้แทนถุงยางนั้น หากเป็นข้อเท็จจริงจะส่งผลต่ออวัยวะเพศได้ เช่น ปัญหาการติดเชื้อ และอาจทำให้เกิดบาดแผลได้ เป็นต้น จึงอยากให้ระวังและไม่ควรนำมาใช้
    
           นายจุรินทร์กล่าวว่า ในการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยนั้นควรใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งในแต่ละปี สธ.มีการแจกถุงยางไปทั่วประเทศปีละ 20 ล้านชิ้น เพื่อให้ประชาชนเข้าถึง โดยแจกฟรีผ่านไปตามหมู่บ้านและชุมชนต่างๆ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และผ่าน อสม. เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้มีการติดตั้งตู้จำหน่ายถุงยางอนามัยอัตโนมัติทั่วประเทศ จำนวน 20,000 เครื่อง สิ่งที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติมคือ นอกจากการเร่งรัดร่าง พ.ร.บ.การอนามัยเจริญพันธุ์แล้ว ยังต้องเร่งให้ความ รู้เพศศึกษาที่ถูกต้อง ปลอดภัย ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ก่อนถึงวัยอันควร โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มอนามัยเจริญพันธุ์และเด็กนักเรียน
    
           เมื่อถามว่า ในกรณีที่เป็นเด็กนักเรียน การจะไปขอถุงยางอนามัยที่กองทุนหมู่บ้านคงเป็นไปไม่ได้ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สามารถ ซื้อถุงยางอนามัยผ่านเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติได้ ซึ่งจะมีกระจายอยู่ตามห้างสรรพสินค้าและกองทุนหมู่บ้าน โดยจำหน่ายในราคาถูก เพียง 2 ชิ้น 10 บาท ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ แต่ทั้งนี้ในกลุ่มเด็กนักเรียนไม่แนะนำให้มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
   
           โดยนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องหลักที่ ศธ.จะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2 โดยได้มอบหมายให้องค์กรหลักที่เกี่ยวข้องถือเป็นยุทธศาสตร์เชิงรุก 3 ด้านดังนี้

           ด้านที่ 1 สร้างมาตรการให้เด็กวัยเรียนไม่มีเพศสัมพันธ์ (NOSEX) โดยจะให้ปรับ ปรุงหลักสูตรกระบวนการเรียนการสอนให้นักเรียนได้เรียนรู้ต่อการเปลี่ยนแปลง ของสังคม เท่าทันต่อการอยู่ร่วมกับผู้อื่น และเพิ่มความรู้เรื่องครอบครัวศึกษา เรียนรู้พฤติกรรมของวัยรุ่น การพัฒนาบุคลิกภาพเพื่อเป็นเกราะกำบังให้เด็กที่ไม่อยู่ในวัยที่ไม่สมควรจะ มีเพศสัมพันธ์ได้ป้องกันตนเอง

           ด้านที่ 2 หากมีความจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ต้องเน้นความปลอดภัย (Safety Sex) คือให้ความรู้ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ตั้งครรภ์โดยที่ยังไม่พร้อม

           ด้านที่ 3 การอบรมครูแนะแนวและดำเนินการตามโครงการเยี่ยมบ้านนักเรียน เพื่อติดตามปัญหาดูพฤติกรรมของเด็ก ต้องทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยสอดส่องดูแลและแก้ปัญหา ในภาพรวม 3 ในปีการศึกษา 2554 จะมีการส่งเสริมความประพฤตินักเรียนไม่ให้มีเซ็กซ์ในวัยเรียน

     "ส่วนกรณีที่นักวิชาการนำมาเปิดเผยนั้น ศธ.ไม่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถือว่าเป็นกรณีพิสดารซึ่งเกิดขึ้นไม่มาก แต่ ศธ.จะแก้ปัญหาในภาพรวม และคิดว่ายุทธศาสตร์ทั้ง 3 ด้านจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้" นายชินวรณ์กล่าว

credit http://health.kapook.com/view20225.html
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล