พบกับเคล็ดลับ รับมือไข้หวัด


ไข้หวัด

พบกับเคล็ดลับ รับมือไข้หวัด
(momypedia)
โดย: น.พ.สมชาย แสงกิจพร

         คงไม่มีใครเถียงว่าเมืองไทยเป็นเมืองที่มีอากาศแปรปรวนมากเมืองหนึ่งของโลก วันนี้หนาว แต่พออีกวันร้อนตับแตก อีกวันฝนก็ตกลงมา เลยไม่รู้ว่าเป็นหน้าไหนกันแน่...อากาศเปลี่ยนบ่อยอย่างนี้ร่างกายเราก็แย่ สิครับ..หวัดถามหาเลย

         ไข้ หวัดเป็นโรคที่พบได้บ่อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ในเด็กเล็กมักจะเป็นเฉลี่ยเดือนละครั้ง และในผู้ใหญ่ปกติมักเป็นเฉลี่ยปีละ 2-3 ครั้ง สาเหตุก็เกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งมีอยู่ประมาณ 200 ชนิด ที่ทำให้เกิดไข้หวัดได้ และแต่ละชนิดก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเรื่อย พออายุมากขึ้นเด็กเริ่มมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น การป่วยเป็นไข้หวัดก็จะน้อยลงและห่างออกไป

         ไข้ หวัดติดต่อกันได้ง่ายโดยการอยู่ใกล้ชิดกัน ที่ไหนมีคนหมู่มาก หวัดก็จะชุกระยะฟักตัวของไข้หวัด คือระยะตั้งแต่ได้รับเชื้อจนกระทั่งมีอาการประมาณ 1-3 วัน โดยเริ่มมีไข้เป็นพัก ๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คัดจมูกมีน้ำมูกไหลใส ๆ ไอแห้ง ๆ หรือมีเสมหะสีขาวเล็กน้อย จาม เจ็บคอเล็กน้อย ในเด็กจะมีอาการมากกว่าผู้ใหญ่

         ใน รายที่มีอาการรุนแรง โดยเฉพาะในเด็กเล็กอาจมีอาการไข้สูง และชักจึงควรระมัดระวังไว้ และถ้าเป็นเกินกว่า 3 วัน อาจมีน้ำมูกข้นเขียวหรือเหลืองหรือไอมีเสมหะสีเขียวหรือเหลือง เนื่องจากมีเชื้อแบคทีเรียเข้าซ้ำเติม และอาจมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา ควรปรึกษาคุณหมอโดยเร็ว

         เพราะ คิดว่าไข้หวัดเป็นเองหายเองได้ เราจึงมักไม่ค่อยคิดถึงโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ที่จะตามมา มีบางรายที่เป็นรุนแรงและมีเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ทำให้ลุกลามไปบริเวณใกล้เคียง เช่น เกิดไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ กล่องเสียงอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ ซึ่งมักพบในเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ที่ทำงานหนัก หรือผู้สูงอายุ

รับมือกับไข้หวัด ทำได้โดยการ....

        พักผ่อนนอนหลับมากๆ

        ไม่ควรทำงานหนักหรือออกกำลังกายมากเกินไป

        ควรสวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นอยู่เสมอ

        ไม่ควรอาบน้ำเย็นหรือถูกอากาศเย็นจัด แต่ให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตามร่างกาย

เมื่อมีไข้สูง

        ดื่มน้ำ (อุ่น) มากๆ เพื่อทดแทนน้ำที่เสียไปเนื่องจากไข้

        ทานอาหารอ่อนที่ย่อยง่าย

ไม่ควรซื้อยามาทานเอง

         ผม ไม่แนะนำให้ซื้อหายามาทานเอง แต่จะให้ข้อควรปฏิบัติดังนี้ ถ้ามีไข้ไม่สูง น้ำมูกใส และไอไม่มาก ก็อาจใช้ยาสามัญประจำบ้าน เช่น พาราเซตามอล คลอร์เฟนนิรามีน ยาแก้ไอน้ำดำ ยาแก้ไอน้ำเชื่อม ทานบรรเทาอาการได้ ทั้งนี้ควรอ่านฉลากยาให้เข้าใจ และหากอาการไม่ดีขึ้นใน 3 วัน ควรปรึกษาคุณหมอจะดีที่สุดครับ

         ยา แก้อักเสบหรือยาปฏิชีวนะไม่มีความจำเป็นใด ๆ เลย เพราะไม่มีผลต่อเชื้อไวรัสอยู่แล้ว ยกเว้นในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนดังกล่าว เช่น มีน้ำมูกเขียวหรือเหลือง เสมหะเขียวหรือเหลือง มีอาการหูน้ำหนวก หรือต่อมทอนซิลอักเสบตามมา การใช้ยาปฏิชีวนะอยู่ภายใต้การดูแลของคุณหมอ และใช้ให้ครบขนาด เพราะไม่อย่างนั้นเชื้อจะดื้อยาได้

ระวัง..โรคแทรกซ้อน

         ข้อควรระมัดระวังอย่างยิ่ง คือ การที่ผู้ป่วยมีอาการไข้สูง หายใจหอบเจ็บหน้าอก ปวดศีรษะมาก มีจ้ำเลือดตามแขนและขา หรือลำตัว อาการเหล่านี้มักเป็นภาวะแทรกซ้อนของไข้หวัด หรือผู้เป็นโรคอื่น ๆ ที่มีอาการคล้ายไข้หวัด เช่นไข้เลือดออก ปอดอักเสบ ไอกรน คอตีบ ไข้ไขสันหลังอักเสบ จึงควรปรึกษาคุณหมอโดยเร็วครับ

ไข้หวัดธรรมดาต่างจากไข้หวัดใหญ่อย่างไร

        หวัดทั้งสองชนิดเกิดจากเชื้อไวรัสเหมือนกัน แต่ต่างชนิดกัน อาการจะคล้ายคลึงกันมาก แต่ไข้หวัดใหญ่มักมีไข้สูงและปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อมาก

        และมีข้อสังเกตว่าไข้หวัดธรรมดามักเป็นหวัดมาก ส่วนไข้หวัดใหญ่เป็นหวัดน้อย แม้จะแยกไข้หวัดทั้งสองชนิดนี้ไม่ออก แต่ก็สามารถดูแลรักษาเหมือนๆ กันได้

เรื่องที่ควรเข้าใจเกี่ยวกับไข้หวัด

        ไข้หวัดเกิดจากไวรัส ปัจจุบันยังไม่มียารักษาที่ได้ผลดี การรักษาอยู่ที่การพักผ่อน และการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเป็นสำคัญ

        ไม่จำเป็นต้องใช้ยาแก้อักเสบ หรือยาปฏิชีวนะ ยกเว้นในรายที่สงสัยจะมีภาวะแทรกซ้อน ควรปรึกษาหมอ

          ผู้ที่มีอาการหวัด จามบ่อย โดยไม่มีไข้ อาจเกิดจากการแพ้อากาศ แพ้ฝุ่น หรือละอองเกสรมากกว่าติดเชื้อไวรัสไข้หวัด

        หากมีไข้เกิน 3 วัน และมีอาการรุนแรงมากขึ้น ควรปรึกษาหมอ เพราะอาจมีภาวะแทรกซ้อนหรือเป็นโรคอื่นที่ไม่ใช่ไข้หวัด

http://health.kapook.com/view7264.html
ขอขอบคุณข้อมูลจาก