อันตรายแทรกซ้อน ทอนซิลอักเสบ (สวยด้วยแพทย์)
เจ็บคอ... อ้าว ต่อมทอนซินอักเสบไปเสียแล้ว
ต่อม ทอนซิลอักเสบ อาจไม่ใช่โรคที่มีอันตรายร้ายแรงแต่อย่างใด ทว่าโรคแทรกซ้อนที่มีโอกาสเกิดตามมานั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด วันนี้เราจะมาพูดกันถึงโรคแทรกซ้อนที่สำคัญโรคหนึ่ง นั่นคือ หน่วยไตอักเสบ (Glomerulonephritis) เรามาทำความรู้จักโรคนี้ไปพร้อม ๆ กันค่ะ
หน่วยไตอักเสบ เป็นโรคที่พบได้ทุกเพศ ทุกวัย แต่พบมากในช่วงอายุ 5-15 ปี มักจะเกิดตามหลังต่อมทอนซิลอักเสบ 1-4 สัปดาห์ หรืออาจพบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่เป็นแผลพุพอง หรือฝีตามตัวได้เช่นกัน
สาเหตุเกิดจากร่างกายมีปฏิกิริยาต่อเนื้อไต ภายหลังการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า เบต้าสเตร็ปโตคอคคัสกลุ่มเอ ซึ่งเป็นเชื้อที่ทำให้เกิดต่อมทอนซิลอักเสบนั่นเอง
ผู้ ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย มีไข้ต่ำ ๆ หน้าบวม หนังตาบวม เท้าบวม ปวดหลัง ปัสสาวะสีแดงเหมือนมีน้ำล้างเนื้อ หรือน้ำหมาก ปัสสาวะอาจออกน้อย ในรายที่เป็นรุนแรงอาจมีอาการหอบ เหนื่อย หรือชักได้
โรคนี้ส่วนใหญ่จะสามารถรักษาให้หายได้ มีเพียงส่วนหนึ่งที่จะกลายเป็นเรื้อรังถึงขั้นเสียชีวิต ถึงกระนั้น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ก็ควรรักษากับแพทย์อย่างจริงจัง โดยในการรักษาโรคนี้ แพทย์จะให้การรักษาทางยา เช่น ให้ยาปฏิชีวนะ ยาขับปัสสาวะ ยาลดความดัน เป็นต้น ร่วมกับการรักษาโดยทั่วไป เช่น ให้การรักษาตามอาการ ให้นอนพักผ่อน งดอาหารเค็ม เป็นต้น ซึ่งโดยทั่วไปอาการจะดีขึ้นภายใน 1-3 สัปดาห์ แต่ผู้ป่วยควรมาตรวจปัสสาวะตามแพทย์นัดอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะหายเป็นปกติ
สำหรับผู้ป่วยที่เป็นต่อมทอนซิลอักเสบ หรือแผลพุพองตามตัว ควรรับประทานยาปฏิชีวนะอย่างน้อย 10 วัน เพื่อป้องกันมิให้เกิดโรคหน่วยไตอักเสบแทรกซ้อน ประเภทที่ทานบ้าง ไม่ทานบ้าง หรือทานวันสองวันพออาการดีขึ้นก็หยุดยาเองเสียอย่างนั้น ขอเตือนให้ระวังตัวค่ะ
http://health.kapook.com/view13495.html
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
สวยด้วยแพทย์