รกช้างย่าง ยา(ผี)หลอก หรือยาแก้โรคหอบจริง ๆ


โรคหอบหืด รกช้าง

กิน"รกช้าง"ย่างยา(ผี)หลอก...หรือแก้โรคหอบ (คมชัดลึก)

          ฮือ ฮา!! ตำรายาผีบอก "รกช้าง" รักษาโรคภูมิแพ้ - หอบหืดได้เป็นปลิดทิ้ง แถมยังมีสรรพคุณบำรุงสมรรถภาพทางเพศ เป็นความเชื่อที่เลื่องลือแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว จนชาวบ้านร้านตลาดพอรู้ข่าวมีช้างตกลูกที่ใด ก็จะแห่กันไปเฝ้ารอขอรกช้างมา กินรักษาโรคเรื้อรังที่ทรมานสังขารมาแรมปี แม้จะไม่มีผลยืนยันทางการแพทย์ว่า รกช้างรักษาโรคหอบหืดได้จริง แต่คุณค่าทางจิตใจนั้นเต็มร้อยเข้าขั้น "ยาหลอก" !?!

          ผศ.นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองอธิการบดี ฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ อธิบายถึงอาการโรคภูมิแพ้ด้วยภาษาทางการแพทย์ที่เข้าใจง่าย ๆ โรค นี้เกิดจากภูมิต้านทานของผู้ป่วย ขยันทำงานมากกว่าภูมิต้านทานของคนปกติ เช่น ภูมิต้านทานที่จมูกของคนปกติเวลาเจอเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย ก็จะทำงานด้วยการจาม น้ำมูกไหล เพื่อขับไล่เชื้อโรคแบบพอดี ๆ หากเจอละอองเกสรดอกหญ้าก็จะเฉย ๆ ไม่แสดงอาการขับไล่ แต่ถ้าเป็นโรคภูมิแพ้ ก็จะขับไล่สิ่งแปลกปลอมทุกชนิด ทำให้จาม น้ำมูกไหล ตลอดทั้งวัน จนไม่เป็นอันทำงาน ดังนั้น วิธีรักษาที่ได้ผล คือการทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายทำงานปกติ โดยหลีกเลี่ยงสิ่งที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้นั่นเอง

          ดังนั้น ความเชื่อที่ว่า รก ช้างช่วยรักษาอาการภูมิแพ้ได้อย่างชะงักนั้น อาจารย์เฉลิมชัยชี้ว่า ไม่อาจอธิบายได้ทางการแพทย์ เหมือนกับการกินวิตามินซี ก็ไม่สามารถป้องกันโรคภูมิแพ้ได้ การรักษาที่ได้ผลคือ การทดสอบว่าร่างกายแพ้สิ่งใดกันแน่ แล้วก็หลีกเลี่ยงสิ่งที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ซึ่งปัจจุบันสามารถทดสอบได้อย่างรวดเร็วทันใจ เจ็บเหมือนมดกัดหรือหนามเกี่ยว และเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 500 - 2,000 บาท เพียงแค่ 20 นาทีก็รู้ผล โดยไม่จำเป็นต้องกินยาแก้ภูมิแพ้ ทั้งที่ไม่รู้ว่าตัวเองแพ้อะไรไปตลอดชีวิต

          กลุ่มผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ที่เกิดจากหลอดลมหดตัว ทำให้เกิดอาการหอบหืด ซึ่งกลายเป็นกลุ่มเป้าหมายของยาผีบอก สูตรรกช้าง ผศ.นพ.เฉลิมชัย เตือนว่า การที่คนเรากินอะไรที่ร่างกายไม่คุ้นเคย อาจเกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน โดยเฉพาะรกช้างนั้น ก็ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่บ้าง หากเป็นรกมนุษย์เท่าที่ศึกษามาจะมีเนื้อเยื่อของแม่และลูก ทำหน้าที่เป็นตัวกลางส่งอาหารจากแม่สู่ลูก และรับของเสียจากลูกสู่แม่ ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปมากกว่านี้ แต่สิ่งที่เกิดจากความเชื่อ อาจมีผลทางจิตใจช่วยให้รักษาโรคหายได้ 30 - 40 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยทั้งหมด

          "ที่ ประเทศอินเดียมีวิธีรักษาอาการแน่นจมูก ด้วยการมานั่งล้อมรอบฤาษีแล้วปรบมือ 300 ครั้ง ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานตามปกติ จากยอดผู้ป่วย 100 คน อาการดีขึ้น 30 คน ทางการแพทย์เรียกว่า "ยาหลอก" เป็นผลจากมนุษย์เรามีจิตใจเชื่อมั่นศรัทธาในสิ่งนั้นๆ ทำให้อาการดีขึ้น ส่วนอีก 70 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือก็ยังป่วยเหมือนเดิม คล้ายกับการรักษาด้วยสมุนไพร แค่มีคนหายป่วย 30 เปอร์เซ็นต์ ก็ลือกันว่ารักษาโรคได้ ในทางกลับกัน ยาแผนปัจจุบันหากนำมารักษาแล้วหายป่วยแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าใช้ไม่ได้ผล" ผศ.นพ.เฉลิมชัย กล่าว

          ด้าน รศ.นพ.สมชาย ธนวัฒนาเจริญ หน่วยเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ ภาควิชาสูติศาสตร์ - นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลองพิจารณาหาสรรพคุณทางยาของรกช้าง ด้วยการนำมาเทียบเคียงกับรกมนุษย์ ซึ่งมีฮอร์โมนอยู่เยอะมาก จึงนิยมนำมาทำเครื่องสำอางกันอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ รกยังมีระบบภูมิคุ้มกันที่กดภูมิต้านทานของพ่อ ที่อาจจะทำอันตรายต่อทารกในครรภ์ แต่ก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดีว่ารกของสัตว์ จะมีลักษณะเดียวกันนี้หรือไม่

          "ผม ไม่ค่อยเชื่อว่าระบบเซลล์ของสัตว์จะช่วยกดภูมิต้านทานรักษาโรคภูมิแพ้ได้ เพราะเด็กที่แพ้นมวัว ยังถูกกระตุ้นให้เด็กแพ้โปรตีนสัตว์ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ และยังไม่มีผลการศึกษาที่ทำให้เชื่อได้ว่า รกช้างจะช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ได้ ถ้ายิ่งนำไปผ่านกรรมวิธีด้วยการต้ม ย่าง อาจจะทำให้เซลล์ถูกทำลายไปแล้วก็ได้" รศ.นพ.สมชาย ตั้งข้อสังเกต

          ส่วน นสพ.ชิษณุ ติยะเจริญศรี รองประธานมูลนิธิช่วยชีวิตสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย ซึ่งเคยมีประสบการณ์ เก็บรกแมวเปอร์เซียแช่แข็งไว้ให้คนที่มาขอไปรักษาโรคหอบหืด สะท้อนว่า การกินรกช้างมีมาตั้งนานแล้ว โดยจะนำรกช้างไปตากแดดแล้วต้มหรือย่างกิน เพื่อรักษาโรคหอบหืด เป็นความเชื่อที่สมควรจะมีการพิสูจน์ว่า รกช้างมีสรรพคุณทางยารักษาโรคภูมิแพ้จริงหรือไม่ แต่จริง ๆ แล้วการรักษาโรคภูมิแพ้ แค่หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้แพ้ก็เพียงพอแล้ว ทั้งนี้ ขบวนการเกิดโรคภูมิแพ้เกิดจากร่างกายหลั่งสารฮีสเตอมีน ทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ เช่น บวมแดง คัน ฯลฯ จึงต้องกินยาต้านฮีสตามีนหรือยาคลอเฟนิรามีน

          "ผม ก็เคยบอกคนที่มาขอรกแมวไปกินรักษาโรคหอบหืดว่า รกก็เป็นโปรตีนกินไปเถอะ แต่อย่าหยุดกินยา หากอาการภูมิแพ้กำเริบขึ้นมาอีก จะอันตรายถึงชีวิต" นสพ.ชิษณุ เตือน

          แม้ในทางการแพทย์จะยังไม่มีรายงานและการพิสูจน์ถึงสรรพคุณทางยาของรกช้างที่ มีต่อโรคภูมิแพ้ แต่ในมุมมองของคนเลี้ยงช้างยังคงมีความเชื่อชนิดฝังหัว ถึงความวิเศษของรกช้าง พวกเขาเชื่อว่ารกได้ทำหน้าที่ปกปักดูแลป้องกันภัยร้ายให้แก่เหล่าเทวดาทั้ง 26 องค์ ที่คอยพิทักษ์ลูกช้างตั้งแต่อยู่ในท้องตลอด 2 ปี ด้วยเหตุนี้รกช้างจึงเป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สามารถขจัดปัดเป่าสารพัดโรคได้ ตำรับยาสมุนไพรจึงมักปรากฏชื่อรกช้างเป็นส่วนผสมอยู่ด้วยเสมอ 

          "รก ช้างเป็นบุญแรกที่ลูกช้างได้ทำ โดยเพนียดช้างจะมีช้างตกลูกเฉลี่ยเดือนละเชือก ควาญช้างก็จะนำรกช้างมาย่างจนแห้ง แล้วเก็บไว้บนปะรำพิธี เอาไว้แจกจ่ายชาวบ้านเวลาขอไปทำยาผีบอก เข้าลูกกลอน ผสมเครื่องยารักษาโรคหอบหืด อัมพฤกษ์ อัมพาต ฯลฯ" ลายทองเหรียญ มีพันธ์ ประธานมูลนิธิพระคชบาล และวังช้างอยุธยาแลเพนียด บอก

          "พอ ช้างตกลูกจะมีรกสีขาว มีเนื้อคล้ายม้ามติดอยู่ด้วย มีขนาดใหญ่มากขนาดคนนั่งงอเข่าเข้าไปอยู่ในรกได้สบาย ๆ จากนั้นควาญช้างก็จะนำรกมาย่างจนแห้งทันที จะเหลือขนาดเท่ากับโต๊ะเล็ก ๆ แล้วนำมาเก็บไว้ที่ปะรำพิธี ถ้าชาวบ้านมาขอ ก็จะแบ่งให้ขนาดเท่ากระดาษเอ4 เอาไปทำยารักษาคนป่วยและเก็บไว้บางส่วน บางครั้งรู้สึกไม่สบายใจ เครียด ๆ ก็เคยเอารกช้างมาต้มน้ำกิน ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น" ลายทองเหรียญกล่าวถึงความเชื่อที่ยังไม่มีการพิสูจน์ แต่ก็สามารถหายจากความรู้สึกไม่สบายทั้งปวงได้เป็นปลิดทิ้ง


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

http://health.kapook.com/view4514.html