นักวิชาการเตือนพิษจากเต่าทะเล อันตรายถึงชีวิต

credit ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 กรกฎาคม 2554 07:37 น.
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
       พบชาวภูเก็ต กินเต่าทะเล 3 ราย นักวิชาการเตือนสารพิษร้ายแรง ไม่สามารถทำลายด้วยความร้อนได้ แนะควรติดป้ายเตือน “เต่าทะเล” เป็นสัตว์มีพิษห้ามรับประทาน
     
       น.ส.กุสุมา สว่างพนธุ์ นักวิชาการชำนาญ การ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ภูเก็ต นำเสนอผลการศึกษา เรื่อง “การรับประทานเต่ากระกับการป่วยและเสียชีวิตในชุมชนไทยใหม่ จ.ภูเก็ต ปี 2553” ในการสัมมนาระบาดวิทยาแห่งชาติ ครั้งที่ 21 ภายใต้เรื่อง “ระบาดวิทยากับความท้าทายจากภัยสุขภาพโลกที่อุบัติใหม่” ว่า งานระบาดวิทยา สสจ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ ว่า มีผู้เสียชีวิตจากการรับประทานเต่าทะเล จำนวน 3 ราย และมีผู้ป่วยอีกหลายรายในหมู่บ้านไทยใหม่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงได้ดำเนินการสอบสวนโรค เพื่อยืนยันการววินิจฉัยและศึกษาลักษณะการเกิดการกระจายของโรค ดำเนินการโดยการรวบรวมข้อมูลประวัติการรักษาของผู้ป่วยจากโรงพยาบาลและสถานี อนามัย สัมภาษณ์ข้อมูลการรับประทานเต่ากระในชุมชนไทยใหม่ จำนวน 861 ราย ผู้ที่เข้าข่ายเป็นผู้ป่วยจะต้องมีอาการอย่างน้อย 2 อาการ คือ แสบปาก ชาบริเวณปาก เจ็บคอ กลืนลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก ซึมหมดสติ ระหว่างวันที่ 4-25 มิ.ย.จนทราบผลที่แน่ชัดทั้งประวัติการกินและผลทางห้องปฏิบัติการ
     
       น.ส.กุสุมา กล่าวด้วยว่า จาก ผลการศึกษา พบผู้ป่วย จำนวน 48 ราย เสียชีวิต 3 ราย อัตราป่วยตาย ร้อยละ 6.25 ผุ้ป่วยอายุระหว่าง 12-80 ปี ผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาที่สถานพยาบาล จำนวน 25 ราย อาการที่พบมากที่สุด คือ เจ็บคอ ร้อยละ 87.50 แสบปาก ร้อยละ 72.92 ปากชา ร้อยละ 33.33 และคลื่นไส้ อาเจียน ร้อยละ 31.25 ระยะฟักตัว 2 ชั่วโมงถึง 11 วัน ในจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วย 46 ราย มีประวัติรับประทานอาหารที่ปรุงจากเต่ากระตัวเดียวกัน ระหว่างวันที่ 4-5 มิถุนายน อีก 2 ราย ดูดนมแม่ที่รับประทานเต่ากระ อัตราป่วยในกลุ่มผู้ที่รับประทานเต่ากระเท่ากับร้อยละ 48.48
     
       นักวิชาการกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เต่ากระเป็นสัตว์ทะเลที่มีสารพิษ เรียกว่า Chelonitoxism ซึ่งไม่สามารถทำลายด้วยความร้อน สามารถผ่านทางน้ำนมส่งผลต่อทารกที่ดูดนมแม่ได้ ดังนั้น หนทางที่สามารถเตือนภัยแก่ประชาชนได้ น่าจะมีการประชาสัมพันธ์การห้ามจับสัตว์ทะเลอนุรักษ์ และป้ายแจ้งเตือนว่า มีพิษห้ามนำมารับประทานอาจทำให้เสียชีวิตได้
credit link  http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000088291