โรคน้ำกัดเท้า หรือเชื้อราที่เท้า


เท้า น้ำกัดเท้า
โรคน้ำกัดเท้า

โรคน้ำกัดเท้า หรือเชื้อราที่เท้า (เดลินิวส์)

          เบื่อ หน้าฝนจัง เพราะจะเดินไปทางไหนก็แฉะไปหมด บางจุดที่มีน้ำท่วมขังสูงๆ ก็เดินลำบาก บางครั้งก็ทำให้รองเท้าเราเปียกด้วย และที่สำคัญ น้ำเหล่านั้นล้วนแต่สกปรก ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับ โรคน้ำกัดเท้า หรือเชื้อราที่เท้าตามมาได้
           สำหรับ โรคน้ำกัดเท้า หรือเชื้อราที่เท้านั้น บางครั้งมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ทำให้เกิดปวดแสบปวดร้อนหรือถึงกับมีหนองไหล โรคนี้พบบ่อยในชาวกรุง เพราะต้องใส่ร้องเท้า ถุงเท้าไปทำงาน พบว่าหลายคนมีรองเท้าคู่เก่งอยู่เพียงคู่เดียว บางคนมีหลายคู่แต่ก็มีคู่โปรด ใส่อยู่คู่เดียว ใส่ย่ำน้ำไปมา จนรองเท้าชื้นแฉะ ทำให้เชื้อราของผิวหนังที่ชอบเจริญเติบโตในบริเวณที่มืดมิด อบ และอับชื้น ขยายตัวแพร่พันธุ์จนเกิดโรคเชื้อราที่เท้าได้
           อาการ ของการติดเชื้อราที่เท้า มักเห็นเป็นผื่นเปียกยุ่ยสีขาวที่งามนิ้วเท้า บางทีก็เป็นที่ฝ่าเท้า หากโชคร้ายติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนก็จะเกิดเป็นหนอง เคยมีคนไข้ที่เป็นเชื้อราที่เท้า แล้วติดเชื้อแบคทีเรียจนบวมไปทั้งขา และต้องผ่าตัดเอาหนองและเอาเนื้อตายออก โรคเชื้อราที่เท้านั้นพบบ่อยในผู้ที่ต้องใส่ถุงเท้าประจำ เช่น นักกีฬา นักเรียน ผู้ที่ทำงานในออฟฟิศ ฝรั่งจะเป็นเชื้อราที่เท้ามากเพราะใส่ถุงเท้ารองเท้ากันจนชิน ขนาดกลับบ้านก็ยังไม่ถอดรองเท้า เดินย่ำไปย่ำมาในบ้าน เพราะถือว่าปูพรมอยู่แล้ว แถมเวลาไปเล่นกีฬายังอาบน้ำรวมกันใน shower room ย่ำพื้นห้องน้ำเดียวกัน ระยะหลังคนไทยรับวัฒนธรรมสวมถุงเท้า รองเท้ามายิ่งทำให้เชื้อราที่เท้าระบาดมาก อยู่กับบ้านก็ควรใส่รองเท้าแตะสักนิด เท้าจะได้แห้งบ้าง

           ข้อแนะนำทั่วไปสำหรับป้องกันเชื้อราที่เท้านั้น คือ ไม่ควรสวมถุงเท้าหนาและคับเกินไป หากไปย่ำน้ำสกปรกมา ควรล้างเท้าด้วยสบู่และน้ำเปล่าจนสะอาด ซับเท้าให้แห้ง อาจใช้พัดลมเป่าหรือใช้แห้งโรย

           หน้าฝนนี้ก็ไม่ ต้องกังวลแล้วว่า เท้าของเราจะเป็น โรคน้ำกัดเท้า หรือเชื้อราที่เท้าหรือไม่ เพียงแค่คุณรักษาความสะอาด และใส่ใจกับเท้าของคุณบ้าง เท่านั้นก็พอ...
ขอขอบคุณข้อมูลจาก