แนะล้างมือประจำ สกัดโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ



ล้างมือ


กรมอนามัย ชี้ ล้างมือช่วยสกัดโรค เผยคนกรุงใส่ใจล้างมือมากขึ้นร้อยละ 87 (กระทรวงสาธารณสุข)

          กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะคนไทยล้างมือเป็นประจำ สร้างพฤติกรรมอนามัยลดปัจจัยเสี่ยงจากโรคไข้หวัด โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เผยหลังการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครตื่นตัวล้างมือมากขึ้นร้อยละ 87

          นายแพทย์สุวัช เซียศิริวัฒนา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในการร่วมแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ "มือสะอาด ป้องกันไข้หวัดในหน้าฝน" ณ ลานเอเทรียม ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ กรุงเทพมหานคร ว่า ภายหลังการระบาดของโรคไข้หวีดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนในกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่ตื่นตัวในการป้องกันสุขภาพตนเองมาก ขึ้น

          โดยเฉพาะการล้างมือ พบว่า คนมีพฤติกรรมการล้างมือก่อนรับประทานอาหารร้อยละ 61 มีการล้างมือด้วยน้ำและสบู่หลังเข้าส้วมร้อยละ 87 ซึ่ง การล้างมือนับเป็นวิธีที่ดีที่สุด และราคาถูกที่สุดในการป้องกันโรคไข้หวัดที่มักจะเกิดขึ้นในทุกกลุ่มวัยเมื่อ อากาศเปลี่ยน เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ หรือจากการสัมผัสที่สามารถติดต่อจากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่ง เพราะโรคติดต่อหลายโรคมีมือเป็นพาหะนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายจนอาจทำให้ถึง ขั้นเสียชีวิตได้ 

          นายแพทย์สุวัช  กล่าวต่อไปว่า  แม้ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญและใส่ใจในเรื่องการล้างมือมากขึ้นร้อยละ 87 แต่ ในจำนวนนี้พบว่า ยังมีวิธีการล้างมือที่ไม่ถูกต้อง คือล้างด้วยน้ำเปล่า ร้อยละ 41 ซึ่งการล้างมือที่ถูกวิธีมีด้วยกัน 7 ขั้นตอน ได้แก่

          1. ฝ่ามือถูกัน 
          2. ฝ่ามือถูหลังมือและนิ้วถูซอกนิ้ว
          3. ฝ่ามือถูฝ่ามือและนิ้วถูซอกนิ้ว 
          4. หลังนิ้วมือถูฝ่ามือ 
          5. ถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบด้วยฝ่ามือ
          6. ปลายนิ้วมือถูขวางฝ่ามือ
          และ 7. ถูรอบข้อมือ

          โดยปัจจุบันสถานที่ต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ สถานีรถไฟฟ้า และสถานที่ราชการต่าง ๆ ได้มีการจัดบริการเจลล้างมือและให้กับประชาชนได้มีโอกาสล้างมือได้อย่าง สะดวกมากขึ้นด้วย

          "พฤติกรรมการล้างมือเพื่อสร้างสุขนิสัยที่ดีที่ถูกต้องนั้น ไม่เพียงแค่เฉพาะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ เท่านั้น แต่ควรล้างมือจนทำให้ติดเป็นนิสัยด้วยการล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ทุก ครั้งก่อน และหลังที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ทุกครั้ง อาทิ ก่อนและหลังรับประทานอาหาร เตรียมอาหารหรือปอกผลไม้ ก่อนและหลังการใช้ห้องน้ำหรือห้องส้วม  หลังการจาม ไอ หรือไปสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย หลังทำความสะอาดบ้านและบริเวณบ้าน หลังสัมผัสหรือเล่นกับสัตว์เลี้ยง ซึ่งสารฆ่าเชื้อในสบู่จะสามารถฆ่าเชื้อโรคได้มากที่สุด และพฤติกรรมดังกล่าวจะช่วยลดพาหะนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งกรมอนามัยได้มีการรณรงค์ในเรื่องการสร้างพฤติกรรมอนามัย "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ" มาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นมาตรการที่สำคัญในการป้องกันโรค" รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด

ขอขอบคุณข้อมูลจาก