“จุดชมวิวทะเลกรุงเทพฯ” เพลินใจบรรยากาศ เพลินปากซีฟู้ดรสเด็ด

ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 เมษายน 2554 15:10 น.
บรรยากาศโต๊ะนั่งสบายๆ ร้านจุดชมวิวทะเลกรุงเทพฯ
       ลมทะเลเย็นๆ พัดโชยมาสร้างความเย็นกาย และเย็นใจให้ “ตระเวนกิน” เสีย เหลือเกิน ขณะที่เรากำลังนั่งอยู่บนเรือหางยาว ลัดเลาะไปตามลำคลองที่สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าโกงกางอันเขี้ยวครึ้ม เพื่อมุ่งหน้าไปยังร้านอาหาร “จุดชมวิวทะเลกรุงเทพฯ” (Bangkok Sea View) ที่ตั้งอยู่กลางทะเลของชายทะเลบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ไม่ใกล้ไม่ไกลนี่เอง
      
       “ร้านจุดชมวิวทะเลกรุงเทพฯ” เป็นร้านอาหารที่เปิด ให้บริการมานานกว่า 8 ปีแล้ว เดิมทีสถานที่ตั้งร้านเคยเป็นนากุ้งเก่ามานานกว่า 40-50 ปี แต่แล้วก็ต้องประสบกับปัญหาน้ำทะเลท่วมพื้นที่ เจ้าของร้านจึงมีแนวคิดและปณิธานที่ดีที่ว่าอยากจะพัฒนาพื้นที่เสื่อมโทรม แห่งนี้ ที่ถูกน้ำกัดเซาะและท่วมถึงให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของทะเล กรุงเทพฯ และมีความตั้งใจที่จะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวนี้ให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ของคนกรุงเทพฯและประชาชนทั่วไปควบคู่ไปกับการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม เพื่อลดการพังทลายการและกัดเซาะของหน้าดิน โดยมุ่งหวังให้เป็นจุดเริ่มต้นของการรักษาพื้นที่ป่าชายเลนบริเวณทะเล บางขุนเทียน
ร้านจุดชมวิวทะเลกรุงเทพฯ ยามเย็น
       เรียกว่าที่ไปที่มาของ “ร้านจุดชมวิวทะเลกรุงเทพฯ” นั้น น่าสนใจไม่น้อย นั่นจึงทำให้ร้านอาหารร้านนี้มีความน่าสนใจตั้งแต่บรรยากาศของร้านที่สร้าง เป็นแบบระเบียงไม้ทอดยาวไปในทะเล มีโต๊ะให้เลือกนั่งทั้งแบบนั่งกับพื้นและมีโต๊ะเตี๊ยๆ ให้วางอาหาร หรือถ้าใครแข้งเข่าไม่ดี ก็มีโต๊ะสูงและเก้าอี้ให้เลือกนั่งแบบสบายๆ รับลมธรรมชาติเย็นๆ ชมวิวทะเลสวยๆ แถมมีนกให้ดูแบบเพลินตาด้วย
      
       นั่นคือความน่าสนใจและน่าเพลิดเพลินของบรรยากาศร้าน ส่วนเรื่องอาหารของที่ร้านนี้ก็ขอบอกว่าอร่อยเพลินปากคนชอบกินอาหารทะเลสดๆ เป็นแน่ เพราะที่นี่เน้นนำเอาอาหารทะเลสดๆ ที่มีคุณภาพมาปรุงเป็นอาหารไทยว๊ฟู้ดจานเด็ดมากมาย ที่ล้วนแล้วแต่ชวนกินทั้งนั้นเลย
ยำชะครามกุ้งกับหอยแครง
       อย่างมื้อนี้เราสั่งเมนูจานเด็ดมาขึ้นโต๊ะอยู่หลายรายการ เริ่มจากจานแรกเป็น ยำชะครามกุ้งกับหอยแครง (120 บาท) ที่หากินได้ยาก เพราะใบชะครามเป็นผักพื้นบ้านท้องถิ่นของที่นี่ ทางร้านนำใบชะครามมาลวกแล้วยำใส่น้ำพริกเผา กะทิ กุ้ง และหอยแครง ยำคลุกเคล้าให้เข้ากัน และโรยหน้าด้วยหอมเจียวกับกระเทียมทอด ลิ้มรสชาติถูกปากดีกับใบชะครามเคี้ยวมันปาก ออกรสชาติน้ำยำเข้มข้นกลมกล่อมกินเข้ากับกุ้งและหอยแครงที่หวานสด
ทะเลลวกจิ้ม
       จานต่อมาอร่อยเต็มอิ่มกับ ทะเลลวกจิ้ม (180 บาท) ที่เน้นนำเอาอาหารทะเลสดๆ หลายอย่างมาลวกมีทั้งปลากะพงขาว หมึก กุ้ง หอยนางรม และปูอัด โรยหน้าด้วยกระเทียมโทนทอดและหอมเจียว จิ้มกินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซบที่ทางร้านโขลกเอง ขอบอกว่าอาหารทะเลชิ้นใหญ่เคี้ยวเต็มปากเต็มคำ แต่ละอย่างล้วนสดหวานจิ้มกินกับน้ำจิ้มรสจัดจ้านโดนใจ
กุ้งผัดพริกไทยดำ
       จากนั้นมากินกุ้งตัวโตกับเมนูที่ชื่อว่า กุ้งผัดพริกไทยดำ (240 บาท) ทางร้านนำกุ้งแชบ๊วยตัวใหญ่เอามาผัดกับเครื่องพริกไทยดำสูตรเด็ดของที่ทาง ร้านปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ และใส่ยอดมะพร้าว พริกยักษ์สามสี เม็ดพริกไทยอ่อน กินกุ้งเนื้อแน่นนุ่มหวานผสานกับรสชาติเครื่องพริกไทยดำที่เข้มข้นถูกปาก จริงๆ
ปูทะเลผัดผงกะหรี่
       แล้วก็มาต่อกับเมนู ปูทะเลผัดผงกะหรี่ (ราคาตามน น.ปู ขีดละ 95 บาท) ไม่ส่งมากินไม่ได้ เพราะเป็นเมนูขายดีประจำร้าน ที่ทางร้านจะนำเอาปูทะเลสดๆ จากพื้นที่ นำมาต้มให้ปูสุกแล้วจึงนำมาผัดคลุกเคล้ากับเครื่องผงกะหรี่ที่ปรุงรสไว้แล้ว และผัดแบบโบราณคือจะไม่ใส่ไข่ แต่ใส่ต้นหอมลงไปผัดให้เข้ากัน เสิร์ฟมาร้อนๆ ได้กลิ่นผงกะหรี่หอมๆ ขึ้นจมูก กินปูเนื้อแน่นหวานสดจริงๆ และยังได้รสชาติเครื่องผงกะหรี่ที่เข้มข้นมากๆ
ปลากะพงทอดราดน้ำปลา
       เมนูถัดมาคือ ปลากะพงทอดราดน้ำปลา (350 บาท) ปลากะพงขาวสดๆ ตัวโตกำลังดีทางร้านแล่แบะออกแล้วทอดจนเหลืองกรอบ แล้วก็มีน้ำราดเป็นน้ำปลาสูตรเด็ดที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษราดมบนตัว ปลาอีกที เสิร์ฟมาพร้อมกับยำมะม่วงให้กินเคียงกัน กินปลาเนื้อแน่นกรอบนอกนุ่มในชุ่มรสชาติน้ำปลาเค็มๆ หวานๆ กินคู่กับน้ำยำมะม่วงเพิ่มรสเปรี้ยวอมเผ็ด
ต้มส้มปลากระบอก
       ส่งท้ายด้วยเมนูซดน้ำร้อนๆ ต้มส้มปลากระบอก (200 บาท) เสิร์ฟมาแบบหม้อไฟ มีปลากระบอกไข่สดๆ หั่นเป็นชิ้นต้มมากับน้ำซุปที่ใส่หอมแดง ต้นหอม ผักชี ปรุงรสด้วยมะขามเปียกและน้ำตาลปี๊บ ซดน้ำซุปร้อนๆ ออก 3 รสเปรี้ยว หวาน เค็ม ส่วนปลากระบอกเนื้อนุ่มไม่คาวปาก
      
       และนอกจากเมนูเด่นเหล่านี้ที่ได้ลองลิ้มจนติดใจติดปากกันไปแล้ว ขอบอกว่าในเมนูอาหารก็ยังมีอาหารซีฟู้ดจานเด็ดอื่นๆ ที่น่าสั่งมากินอีกมาก อาทิ กุ้งราดซอสมะขาม (240 บาท) ทะเลรวมเผา (เล็ก 450 บาท ใหญ่ 900 บาท) แกงส้มกุ้งใบชะคราม (240 บาท) ลาบปลาหมอทะเล (150 บาท) ฯลฯ ซึ่งหากมิตรรักนักกินท่านไหน อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศในการกินข้าว มานั่งกินอาหารทะเลสดๆ รสเลิศท่ามกลางบรรยากศทะเล ใกล้กรุงเทพฯ ขอแนะนำเลยว่ามาที่ร้าน “จุดชมวิวทะเกรุงเทพฯ” รับรองไม่มีคำว่าผิดหวัง และอาจติดใจจนอยากจะมาอีกหลายๆ ครั้ง
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       “จุดชมวิวทะเลกรุงเทพฯ” (Bangkok Sea View) ตั้งอยู่ที่ 74/3 หมู่ 9 ชายทะเล-บางขุนเทียน ท่าข้าม บางขุนเทียน กทม. การเดินทางจากถ.พระราม 2 ขับผ่านห้างบิ๊กซี สาขาพระราม 2 ประมาณ 500 ม. แล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนชายทะเลบางขุนเทียน ตรงมาอีก 13 กม. จะเจอสามแยกแล้วให้เลี้ยวขวามาประมาณ 100 ม. ให้สังเกตป้ายจุดชมวิวทะเลบางขุนเทียน ก็จะเห็นท่าเรือของร้านอาหารจุดชมวิวทะเลกรุงเทพฯ จะมีเรือพาไปถึงร้านอาหารจุดชมวิวทะเลกรุงเทพฯ (ค่าเรือ ผู้ใหญ่ 50 บาท/ เด็ก 20 บาท) ร้านเปิดทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์ แต่ถ้าเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์เปิด) เวลา 11.00-21.00 น. เรือเที่ยวสุดท้ายที่พามาร้านเวลา 19.00 น. ถ้ามาเป็นหมู่คณะแนะนำว่าควรโทร.มาจองโต๊ะก่อน โทร. 08-9613-1340, 08-9894-3595 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bangkokseaview.com
credit http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000052348