เชื่อหรือไม่ สาวผิวขาวคนนี้ แท้จริงเป็น คนผิวดำ


โรคด่างขาว

ดาร์เซล เดอ วลูกท์ กับ โรคด่างขาว


เชื่อหรือไม่... สาวผิวขาว แสนสวยคนนี้ แท้จริงเป็น คนผิวดำ ป่วยโรคเดียวกับ ไมเคิล แจ็คสัน !! (ประชาชาติธุรกิจ)
โดย พิงค์สเกิร์ต

          โรคด่างขาว อาการผิดปกติของผิวหนังชนิดหนึ่ง สามารถทำให้คนผิวดำ กลายเป็น "คนผิวขาว" ไปทั้งตัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ
          เรื่องราวของหญิงสาวผิวดำคนนี้ อาจเป็นคำตอบหรือข้อยืนยัน สำหรับหลายคนที่มีความสงสัยเกี่ยวกับการ "เปลี่ยนสีผิว" จากผิวสีดำกลายเป็นผิวขาวของราชาเพลงป๊อปผู้ล่วงลับ ไมเคิล แจ็คสัน เพราะผู้หญิงคนนี้เป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า " โรคด่างขาว " อาการผิดปกติของผิวหนังชนิดหนึ่ง สามารถทำให้คนผิวดำ กลายเป็น "คนผิวขาว" ไปทั้งตัวได้อย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้
โรคด่างขาว

ดาร์เซล เมื่ออายุ 7 ขวบ


          ทุกวันนี้ สาววัย 23 ปี ที่ชื่อว่า "ดาร์เซล เดอ วลูกท์" ต้อง ทาครีมกันแดดชนิดดีที่สุด ทุกวันในชีวิตของเธอ แม้ว่าวันนั้นจะไม่มีแดดออกก็ตาม เธอเป็นผู้ป่วยโรคด่างขาว กรณีหาได้ยากมาก เพราะว่าโรคนี้ทำให้เธอเปลี่ยนเป็นคนผิวขาวอย่างสมบูรณ์ และทำให้เธอต้องมีปัญหาทุกครั้งในความพยายามอธิบายความจริงว่า ที่แท้เธอเป็น "คนผิวดำ"

          "ฉันเหนื่อยมากกับการพยายามอธิบายให้ใครเข้าใจว่า ฉันเกิดเป็นคนผิวดำ และพ่อแม่ของฉันมาจากประเทศทรินิแดด" ดาร์เซล กล่าวและว่า พ่อแม่ฉันเริ่มสังเกตความผิดปกติเมื่อฉันอายุ 5 ขวบ เพราะเกิดจุดขาวๆ ขึ้นที่ต้นแขนและหน้าผาก และเมื่อฉันอายุได้ 7 ขวบ ผิวหนังที่ขาฉันกลายเป็นสีขาว และเริ่มมีจุดสีขาวไปทั่วทั้งร่าง

          "ดาร์เซล" ซึ่ง ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นแฟชั่น ดีไซน์เนอร์ กล่าวต่อว่า เมื่อฉันอายุ 17 ปี ฉันกลายเป็นคนผิวขาวอย่างสมบูรณ์ ทั้งที่ไม่มีใครในตระกูลฉันเคยมีประวัติเป็นโรคด่างขาวมากก่อน ส่วนคนที่แต่งงานกับตระกูลฉัน ก็มีอาการนี้เหมือน แต่ไม่หนักแบบนี้
ดาร์เซล

พ่อและแม่ ของ ดาร์เซล


          เมื่อถูกถามถึงอาการป่วยของ ไมเคิล "ดาร์เซล" เชื่อว่า ราชาเพลงป๊อป เป็นโรคเดียวกับเธอ และมีรอยด่างขาวบนร่างกายบางส่วน ไมเคิล จึงต้องทำให้ร่างกายส่วนอื่นมีสีผิวขาวตามไปด้วย แต่เธอโชคดีที่ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพราะทุกส่วนมันขาวไปหมดแล้ว

          ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า กรณีแบบดาร์เซลถือว่าหาได้ยากมาก และโรคนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ 1 ใน 100 คนในทุกช่วงอายุ

http://health.kapook.com/view2981.html
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก