ปวดท้อง ท้องอืด กินอะไรก็อิ่มง่าย จุกเสียด ปัสสาวะบ่อยๆ อย่างวางใจ โดยเฉพาะผู้หญิง มีโอกาสเสี่ยงมะเร็งรังไข่ (โรงพยาบาลพญาไท)
สำหรับ ผู้ที่มีอาการปวดท้อง ท้องอืด กินอะไรก็อิ่มง่าย จุกเสียด ปัสสาวะบ่อย ๆ ก็อย่าวางใจ โดยเฉพาะในผู้หญิง นอกจากนี้อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก เบื่ออาหาร และอาจมีเลือดออกในช่องคลอด
พญ.ธิศรา วีรสมัย สูตินรีแพทย์ ประจำศูนย์สุขภาพหญิง โรงพยาบาลพญาไท 1 ระบุว่า อาจมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งรังไข่ได้ โดยโรคมะเร็งทุกชนิดจะเหมือนกันคือยิ่งตรวจพบเร็ว การรักษาก็จะได้ผลดี มะเร็งรังไข่ก็เช่นกัน
โรคมะเร็งรังไข่มักจะวินิจฉัยได้ช้า เนื่องจากอยู่ภายในช่องท้อง และมักจะไม่มีอาการในระยะแรกของโรค แต่หากค้นพบแรกเริ่มจะเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหากมีคนในครอบครัวมีประวัติการเป็นโรคมะเร็งรังไข่มาก่อน ควรรีบตรวจคัดกรองโรคมะเร็งทุกปี และพึงระวังตนเป็นกลุ่มเสี่ยงของโรคดังกล่าว
ข้อมูล จากสถาบันมะเร็งแห่งชาติเกี่ยวกับมะเร็งรังไข่ เป็นมะเร็งที่พบได้มากเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งระบบสืบพันธุ์สตรี พบได้มากในช่วงอายุ 40-60 ปี ในเด็กก่อนหรือหลังวัย 10 ปีก็อาจพบได้
สาเหตุโรคมะเร็งรังไข่
ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบเหตุส่งเสริมที่ทำให้เกิดมะเร็งรังไข่ ดังนี้คือ
1.สภาพแวดล้อม เช่น สารเคมี อาหาร เนื่องจากพบว่าในประเทศอุตสาหกรรมมีผู้ป่วยเป็นมะเร็งรังไข่ มากกว่าประเทศเกษตรกรรม
2.สตรีที่ไม่มีบุตร หรือมีบุตรน้อย
3.ผู้ที่เคยเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก และมะเร็งระบบทางเดินอาหาร โอกาสเป็นมะเร็งรังไข่มีมากกว่าคนปกติ
อาการของโรคมะเร็งรังไข่
1.อาจไม่มีอาการ แพทย์ตรวจพบโดยบังเอิญ
2.มีอาการท้องอืดเป็นประจำ
3.มีก้อนในท้องน้อย
4.ปวดแน่นท้อง และถ้าก้อนมะเร็งโตมากจะกดกระเพาะปัสสาวะ หรือลำไส้ส่วนปลาย ทำให้ถ่ายปัสสาวะ หรืออุจจาระลำบาก
5.ในระยะท้าย ๆ อาจมีน้ำในช่องท้อง ทำให้ท้องโตขึ้นกว่าเดิม เบื่ออาหาร ผอมแห้ง น้ำหนักลด
การวินิจฉัยโรคมะเร็งรังไข่
1.การตรวจภายในอาจคลำพบก้อนในบริเวณท้องน้อย การคลำพบก้อนในรังไข่ได้ในสตรีวัยหมดประจำเดือน ควรนึกถึงมะเร็งรังไข่ไว้ด้วย (เพราะตามปกติวัยหมดประจำเดือน รังไข่จะฝ่อ)
2.การทำแปปสเมียร์จากในช่องคลอดส่วนบนทางด้านหลัง อาจพบเซลล์มะเร็งของรังไข่ได้
3.การตรวจด้วยเครื่องความถี่สูง อาจช่วยบอกได้ว่ามีก้อนในท้อง ในรายที่อ้วน หรือหน้าท้องหนามากคลำด้วยมือตามปกติจะตรวจไม่พบ
4.การผ่าตัดเปิดช่องท้อง และตรวจดูเป็นวิธีที่สำคัญ และแม่นยำที่สุดในการวินิจฉัยโรคอย่างแน่นอน สามารถขริบ หรือตัดเอาเนื้อมาตรวจหาชนิดของมะเร็ง และทราบถึงระยะของโรคร้าย
การป้องกันโรคมะเร็งรังไข่
เนื่องจากมะเร็งรังไข่ในระยะแรก ๆ มักจะไม่มีอาการ อีกทั้งยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง การป้องกันจึงทำได้ยาก ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ รับการตรวจภายใน หรือตรวจด้วยคลื่นความถี่สูงโดยแพทย์ อย่างน้อยปีละครั้ง
การผ่าตัดเป็นวิธีแรกที่แพทย์จะเลือกทำการรักษา ถ้าไม่สามารถตัดออกได้หมด เนื่องจากโรคกระจายออกไปมากแล้ว แพทย์จะพยายามตัดออกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วจะให้การรักษาต่อด้วยเคมีบำบัด หรือรังสีบำบัด
http://health.kapook.com/view18194.html
ขอขอบคุณข้อมูลจาก