Showing posts with label บันเทิง. Show all posts
Showing posts with label บันเทิง. Show all posts

มิ้นท์ ณัฐวรา รับคุยหนุ่มนอกวงการ แต่ยังไม่พิเศษ

มิ้นท์ ณัฐวรา วงศ์วาสนา

มิ้นท์ ณัฐวรา วงศ์วาสนา


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram mintnutwara

            มิ้นท์ ณัฐวรา ยังยืนยัน หมาก ปริญ เป็นแค่เพื่อนเหมือนเดิม เผย ตอนนี้ยังไม่รีบร้อนเรื่องความรัก แม้จะมีคนนอกวงการที่คุยกันถูกคอ แต่ยังถึงไม่ขั้นเป็นคนพิเศษ

          เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลังมาร่วมงานบวงสรวงเปิดกล้องละคร แรงปรารถนา มิ้นท์ ณัฐวรา วงศ์วาสนา ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่มีข่าวกับ หมาก ปริญ สุภารัตน์ บ่อย ๆ ว่า ยังเป็นแค่เพื่อนกันเหมือนเดิม เพราะรู้จักกันมา 4 ปีแล้ว ส่วนเรื่องความรัก ขณะนี้หัวใจยังว่าง อาจจะมีคุยกับคนอื่นบ้าง แต่ถ้าช่วงไหนเหงาก็ไปหาเพื่อนหรือไปหาแม่แทน

          ส่วนข่าวลือเรื่อง หมาก กับ เต้ย จริญพร จุนเกียรติ นั้น ได้ข่าวมานานแล้ว แต่ก็ไมได้ทัก หรือแซวอะไรเขา เพราะไม่ค่อยได้เจอกันอยู่แล้ว และข่าวที่ว่า เแม่หมากปลื้มเต้ย ตนก็ไม่ได้สนใจ รู้แต่ว่าคุณแม่หมากเป็นคนที่น่ารักดี

          มิ้นท์ ยังกล่าวทิ้งท้ายถึงภาพที่ถ่ายคู่กับชายหนุ่มคนหนึ่งว่า นั่นเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกัน ไม่ใช่คนที่บอกว่ากำลังคุยด้วย คนนี้เป็นเพื่อนรุ่นพี่ เรื่องไหนที่ไม่รู้ก็จะปรึกษาเขา ที่ผ่านมามีคนเข้ามาบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนกันมากกว่า ตน ไม่อยากเร่งรีบในเรื่องของความรักอีกแล้ว เพราะถ้ารีบ พอคุยด้วยแล้วไม่ใช่ สุดท้ายก็ต้องเลิกลากันไป ดังนั้นเลยอยากเจอคนที่นิสัยเข้ากันได้จริง ๆ มากกว่า ซึ่งยอมรับว่า ตอนนี้เจอคนที่คุยกันถูกคอแล้ว แต่ยังไม่ใช่คนพิเศษ และเขาเป็นคนนอกวงการด้วย


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

“แอน มิตรชัย” ฟัน 19 ล้าน เล่นหนังบอลลีวูด ออกตัวไม่คิดเปรียบ “พิ้งกี้”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 เมษายน 2555 14:41 น.
       “แอน มิตรชัย” บอกเหมือนฝันเล่นหนังบอลลีวูด รับค่าตัว 19 ล้าน ขึ้นแท่นนักแสดงไทยค่าตัวแพงสุด เจ้าตัวภูมิใจเป็นคนไทยคนแรก พร้อมรับดูสวยขึ้น เพราะทำจมูก ก่อนออกตัวไม่คิดเปรียบกับ “พิ้งกี้”
      
        เรียกว่า โชคดีสองเด้งทีเดียว สำหรับนักร้องลูกทุ่ง-นางเอกลิเกชื่อดัง “แอน มิตรชัย” ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆ ของ “ไชยา มิตรชัย” เพราะ นอกจากจะได้ไปออกอัลบั้มที่อินเดียแล้ว เจ้าตัวยังได้โกอินเตอร์เล่นหนังบอลลีวูด เรื่อง “When Love Happens” ประกบ “ราจีฟ คานเดลวาล” พระเอกที่มีค่าตัวแพงที่สุดของบอลลีวูด ที่งานนี้สาวแอนออกตัวอย่างภูมิใจ ว่า ตนเป็นคนไทยคนแรกที่ได้เล่นหนังบอลลีวูด ซึ่งในวันแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ ที่ร้าน สลิม อาร์ซีเอ วันก่อน เจ้าตัวได้เผยถึงผลงานชิ้นโบแดงเรื่องนี้อย่างตื่นเต้นว่า....
      
        “ดีใจค่ะ แล้วก็ตื่นเต้นมาก เพราะกว่าจะมาถึงวันนี้เราต้องใช้ความพยายามและอดทนมาก แต่เริ่มแรกที่แอนไป คือ แอนได้ไปทำอัลบั้ม แล้วก็ได้ไปเจอผู้กำกับ (เขาบอกไหมว่าถูกใจเราตรงไหน?) เขาก็สงสัยว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ร้องเพลงอินดี้ได้ คนในห้องอัดก็เลยเล่าให้ฟังว่าคนนี้เป็นนักร้องที่ประเทศไทย แล้วบังเอิญคาแรกเตอร์มันได้ กับที่เขาต้องการพอดี ก็เลยได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ ก็เป็นนางเอกในเรื่องค่ะ”
      
        “กดดันค่ะ วันแรกที่ไปก็ร้องไห้เลยว่าคิดผิดหรือเปล่า เพราะพอไปเข้าห้องอัดแล้วแค่คำๆ เดียว เขาก็ไม่ให้ผ่านเลย เพราะถ้าพูดในหนังมีเสียงเพี้ยนบ้างก็ไม่เป็นไร แต่ในเพลงมันต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ใช้เวลาเรียนภาษาประมาณ 3 เดือน ในเรื่องต้องใส่บิกินีด้วย ตอนแรกที่รู้ก็ค่อนข้างจะตกใจค่ะ”
       
        “เราก็ถามเขาว่ามั่นใจเหรอที่จะให้ใส่ เขาก็เลยบอกว่าคาแรกเตอร์ในหนังเรื่องนี้จะเป็นผู้หญิงเซ็กซี่ อีกอย่างหนึ่งเพลงประกอบหนังที่เราร้องนั้นก็ค่อนข้างเซ็กซี่ เขาก็เลยอยากให้ออกมาในรูปแบบนี้ เราก็เลยตกลงที่จะถ่าย ช่วงนั้นพอรู้ก็ต้องฟิตร่างกายอย่างหนักเลย ซึ่งครอบครัวก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ ค่อนข้างที่จะโอเคเพราะแม่อยากให้ถ่าย”
      
        ปลื้ม ได้เล่นประกบ “ราจีฟ คานเดลวาล” พระเอกชื่อดังที่ค่าตัวแพงที่สุดในบอลลีวูด...“กับราจีฟตอนแรกที่ทราบก็ดี จุดเหวี่ยงจะบอกว่าเขาเป็นคนที่น่ารักมาก คือ แค่เรื่องการที่ได้มาเล่นหนังในบอลลีวูดเราก็ไม่ได้คิดแล้ว ยิ่งพอมาได้ทราบว่าคนที่จะได้ร่วมงานด้วย ก็คือ ราจีฟ กับ ราโย มันก็ยิ่งดีใจ”
      
        “คิดเหมือนกันว่าเราฝันไปหรือเปล่า ที่เราตื่นเต้นขนาดนี้เพราะต้องบอกก่อนเลยว่า คนที่จะก้าวไปทำงานที่นั่นไม่มีใครไม่รู้จักเขาทั้งสองคน เพราะที่นั่นเขาเป็นดาราที่ดังมากๆ ป้ายโฆษณาของเขาอยู่ทั่วเมืองเลย ซึ่งเขาก็น่ารักมาก แม้จะเป็นพระเอกดังแค่ไหน แต่เขาก็ช่วยแอนทุกอย่าง ก็รู้สึกปลื้มใจ”
      
        ขึ้นแท่นเป็นนักแสดงที่ค่าตัวแพงที่สุดในประเทศไทยไปแล้ว เพราะเรื่องนี้ “แอน มิตรชัย” ฟันไปเหนาะๆ 19 ล้าน...“เรื่องแรกค่าตัวไม่เยอะเท่าไหร่หรอกค่ะ เราไม่ได้ไปเกร็งมากในเรื่องของค่าตัว เราดีใจที่ได้ทำ แต่มันก็เป็นผลพลอยได้ ก็ได้ประมาณ 8 หลักค่ะ 10 ล้านขึ้นไปก็สมเหตุสมผล ถ้าเทียบกับที่นั่นแล้วก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ”
      
        “เพราะนี่เป็นเรื่องแรกของเรา ถ้า 9 หลักก็เท่าราจีฟแล้ว 120 ล้านบาท เขาถึงว่าดาราบางคนค่าตัวแพงกว่าโปรเจกต์หนังอีก แต่มันเป็นการตกลงที่บริษัททางยุโรปตกลงให้เรา เพราะเราก็มีร้องเพลงด้วย”
      
        เผยชิงเปิดตัวที่เมืองไทยก่อน แต่ที่อินเดียจะต้องรอโปรโมตก่อนฉาย
        “ยังค่ะ ทางอินเดียจะมีการโปรโมทก่อนเข้าโรงภาพยนตร์ 2 เดือน แต่มีการแถลงข่าวของบริษัทไปครั้งหนึ่งว่าจะมีหนังเรื่องนี้ แต่เราไม่คิดว่าคนอินเดียเขาจะให้ความสำคัญกับสื่อมาก มีครั้งหนึ่งแอนไปสนามบิน เขาก็วิ่งกันมา บอกว่าเห็นเราในหนังสือพิมพ์ ก็ดีใจมาก(ยิ้ม)”
      
        ดูสวยขึ้นอย่างผิดหูผิดตาพอถามไปเจ้าตัวปัดเรื่องศัลยกรรมแต่รับทำจมูกมา
        “จริงๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ ก็ลองไปดูรูปเก่าๆ ดู เอาจริงๆ ก็มีทำจมูกนิดหน่อยแค่นี้เอง นอกนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรเลย จริงๆ ก็ไม่ได้เชิงว่าทำหรอกแอนแค่ตัดปีกจมูกหน่อยเดียว เพราะก่อนหน้านี้จมูกเราจะค่อนข้างใหญ่มาก แล้วแอนก็ผอมลงด้วยประมาณ 4 กิโลฯก็เลยยิ่งทำให้หน้าดูยาวขึ้น”
      
        “จริงๆ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทุกคนตกใจที่เห็นเรา เพราะไม่คิดว่าเราเป็น แอน มิตรชัย อย่างตอนที่สนามบินก็เหมือนกัน เวลามีคนกระซิบพูดถึงเราว่าผู้หญิงคนนี้สวยจัง เราก็ตอบเขาไปว่าขอบคุณนะคะ เขาก็ตกใจถามว่าเราเป็นคนไทยเหรอ พอเขาเห็นรอยยิ้มของเรา เขาก็นึกได้ว่าเรา คือ แอน มิตรชัย คือตอนนี้ไปไหนมาไหนก็ไม่มีใครคิดแล้วว่าแอนคือคนไทย”
      
        มีหนุ่มอินเดียมาจีบบ้างมั้ย?
        “ก็มีมาจีบค่ะ (ยิ้ม) ก็มีคุยเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่แน่ใจ คือถามว่าแอนชอบผู้ชายอินเดียไหม แอนไม่ได้ชอบนะ แต่อะไรที่เราไม่ชอบมันก็จะเจอ เขาก็เป็นคนในวงการนี่แหละค่ะ เรารู้จักกันก็ตอนเล่นหนังเรื่องนี้แหละ แต่ก็ยังไม่ได้อะไรเพราะเพิ่งจะรู้จักกัน จริงๆ เคยปฏิญาณไว้ว่า ถ้าเราไปทำงานที่อินเดียแอนจะขอทำงานอย่างเดียวไม่ขอมีแฟนที่นั่น แต่ตอนนี้ก็ไม่แน่ใจแล้วเหมือนกัน”
       
        “ตอนอยู่ที่อินเดียแอนไม่ได้ออกไปไหนเลยนะ เพราะต้องบอกก่อนว่า ที่อินเดียค่อนข้างที่จะเดินยาก มันออกไปลำบากมาก แม้ว่าแอนจะไม่ได้มีชื่อเสียงมาก แต่ทางบริษัทเขาก็ส่งคนมาดูแลแอนตลอด พอออกจากที่พักก็จะมีรถมารับไปทำงาน หรือว่าไปทานข้าวตลอด เนื่องจากเขามีวรรณะเขา ก็เลยแบ่งชนชั้นให้เราไปด้วย เราก็บอกเขาเหมือนกันว่า บางทีก็อยากไปตลาดบ้างเพราะตอนนี้ยังไม่มีใครรู้จัก ถ้าอีกหน่อยมีคนรู้จักก็คงไปเดินไม่ได้แล้ว ซึ่งในเมื่อเขาจัดระเบียบให้เราแบบนี้ เราก็เลยต้องทำแบบนี้ ทำให้แอนไม่ได้ไปไหนเลย ไปเฉพาะในที่ที่เขาจัดให้ไป”
      
        เอ่ยถามว่า ที่บอกว่า เป็นคนไทยคนแรกที่ไปเป็นนางเอกบอลลีวูดเช่นนี้ไม่ดูเหมือนไปบลัฟนักแสดงสาว “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ที่เคยพูดไว้เช่นนี้เหมือนกันหรือ? เรื่องนี้สาวแอนบอก...“พิ้งกี้เป็นคนน่ารักนะคะ เป็นคนสวย แอนก็ชอบเขาเพราะน้องเขาสวยมาก แต่ว่าในเรื่องอื่นนั้นแอนไม่รู้ เพราะเราต่างคนต่างทำงาน”
      
        “และในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาแอนไม่ได้อยู่ในเมืองไทยเลย ไปกลับอินเดียทุกเดือน ก็เลยไม่รู้ข้อมูลของคนอื่นว่าเป็นยังไง แต่แอนดีใจที่ได้เล่นหนังบอลลีวูด และที่สำคัญคนไทยจะได้ดูหนังเรื่องนี้ด้วย ซึ่งมันสำคัญกับแอนมาก เพราะถ้าแอนไปเล่นหนังที่นั่น แล้วคนไทยไม่ได้ดูก็เสียดายนะ แอนอยากให้คนไทยได้ดู”
      
        “ก็คงต้องแล้วแต่คนว่าใครจะนำไปเปรียบเทียบ แต่แอนขอไม่เปรียบเทียบกับใคร เพราะว่าเราตั้งใจทำงานของเรา และเชื่อว่า แต่ละคนเขามีเหตุผลในการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน เขาก็ต้องตั้งใจทำดีที่สุด เราก็ต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุดเพราะฉะนั้นแล้วการที่เราจะมาพูดถึงคนอีกคนนึง แอนจะพูดถึงเขาในแง่ของการสรรเสริญ แอนเชื่อว่าทุกคนตั้งใจ แต่โอกาสอะไรหลายๆ อย่างอันนี้มันก็ต้องแล้วแต่ ณ วันนี้แอนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าได้มาทำงานตรงนี้ได้ยังไง แล้วทุกอย่างมันก็ยังเป็นสเต็ปแรก ถามว่าคาดหวังไหม ก็นิดเดียวค่ะ เพราะเราก็ไม่รู้อนาคต”
      
        เจ้าตัวลั่นจะทำให้ดีที่สุด และเชื่อว่า แฟนๆ ชาวไทยจะภูมิใจในสิ่งที่ตนทำ
        “แอนจะทำให้ดีที่สุด และแอนเชื่อว่า แฟนๆ ชาวไทยจะภาคภูมิใจในสิ่งที่แอนทำ และคนไทยจะได้ดูหนังเรื่องนี้ในปลายเดือนตุลาคมนี้ เพราะทราบว่าหนังจะเข้าฉายที่เมืองไทยด้วย อีกทั้งเรื่องนี้ได้ถ่ายทำที่เมืองไทยด้วยค่ะ”
      
        สำหรับ “ราจีฟ คานเดลวาล” พระเอกหนุ่มวัย 36 ปี ถือว่าเป็นนักแสดงที่ชาวอินเดียรู้จักกันดี เขาเริ่มต้นอาชีพในวงการด้วยงานนายแบบ ต่อมาจึงมีผลงานแสดงทั้งทางโทรทัศน์ และภาพยนตร์ โดยแจ้งเกิดครั้งแรกในหนังโทรทัศน์เรื่อง Kya Hadsaa Kya Haqeeqat หลังจากนั้น จึงมีผลงานตามออกมามากมาย รวมถึงซีรีส์เรื่องยาว Kahiin to Hoga ที่ออกอากาศระหว่างปี 2003-2007 กับจำนวนตอนมากมายถึง 799 ตอน ติดอันดับซีรีส์ที่ออกอากาศยาวนานที่สุด 5 อันดับแรกของประเทศอินเดีย นอกจากนั้น ก็ยังมีงานพิธีกรกับรายการเกมโชว์ชื่อดัง Sach Ka Saamna ด้วย
      
        ในวงการภาพยนตร์ แม้ คานเดลวาล ยังจะมีผลงานไม่มากนัก แต่ Aamir หนังแจ้งเกิดงานจอเงินเรื่องแรกของเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง ที่ผ่านมานักแสดงหนุ่มรายนี้มักจะได้ชื่อว่าพิถีพิถันในการคัดเลือกบท และไม่กลัวที่จะลองงานซึ่งแตกต่างจากระแสนิยมของบอลลีวูดทั่วๆ ไป
      
      
      
      
      

“เป้ย” ประกาศแต่งลูกชาย “บิ๊กบัง” ปีนี้ บอกดีใจที่สุดที่ฝันเป็นจริง

ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 เมษายน 2555 19:36 น.
       “เป้ย” เซอร์ไพร์ส เตรียมแต่ง “ป๊อป นิธิ” ลูกชาย “บิ๊กบัง” ปีนี้ หลังคบ 8 เดือน เผยมีการพูดคุยกันไว้แล้ว แต่ฤกษ์ยังไม่ลงตัว ปลื้มฝ่ายชายมีความรักให้อย่างมากมาย ลั่น ยินดีเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามตามแฟน พร้อมประกาศจะเลิกเซ็กซี่เรี่ยราด เพราะเกรงใจครอบครัวป๊อป 
      
       ตั้งแต่สาวเซ็กซี่ “เป้ย ปานวาด เหมมณี” เลิกรากับอดีตนักร้องหนุ่ม “เต็ม วุฒิสิทธิ์” ข่าวคราวเรื่องความรักของเจ้าตัวก็เงียบหายไปพักใหญ่ กระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ เป้ยได้โพสต์รูปสวีตกับ “ป๊อป นิธิ” ลูกชาย “บิ๊กบัง” พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผู้บัญชาการทหารบก และหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ แต่เป้ยก็ไม่ได้ออกมาเปิดเผยถึงความรักครั้งนี้เหมือนที่ผ่านมา
       
       ล่าสุดวันนี้ (4 เม.ย.) ก็ทำเอาเซอร์ไพรส์ เมื่อเจ้าตัวออกมายอมรับในงานเปิดตัวชุดชั้นใน ไทรอัมพ์ ที่ สถานีบีทีเอส อโศก ว่า กำลังจะแต่งงานกับฝ่ายชายในปีนี้ หลังคบหากันได้เพียง 8 เดือน
      
       “กับป๊อปเป็นคนที่เป้ยคบอยู่ โปรไฟล์ไม่ต้องพูดถึง คนคงพูดถึงเยอะแล้ว ขอไม่พูดถึงแล้วกัน พวกพี่เก่งอยู่แล้ว เป้ยคงไม่ต้องพูด ความรักตอนนี้ก็แฮปปี้มีความสุขดี อย่างที่เห็น ส่วนกระแสว่า เป้ยจะแต่งงานเลย ก็มีคุยๆ บ้าง คบกันมาขนาดนี้แล้ว จริงๆ เราก็เป็นเพื่อนกันก่อนอยู่แล้ว ก่อนที่เราจะตัดสินใจเราก็ดูกันมาก่อนแล้ว รู้ว่าเขาจะเป็นคนยังไง ก็พอมาคบกันก็น่ารัก ถ้าคบในฐานะแฟนประมาณ 8 เดือน”
      
       “กับคนนี้เป้ยคิดว่าจะใช่แล้วสำหรับเป้ย เรารู้จักกันมาก่อน ก็รู้นิสัยเขา เขาน่ารักมาก ที่ผ่านมาก็ดี แต่คนๆ นี้เขาเอาใจใส่ทุกอย่าง เขามีความรักให้กับเป้ยมากๆ มากกว่าที่เป้ยคิด เราก็ต้องรักคนที่เขารักเรา”
      
       “ก็ยอมรับเรื่องแต่งมีคุยๆ ป๊อปเขาจะไปเรียนต่อที่อังกฤษ เดือนพฤษภาคมนี้นะ ป๊อปไปเรียนต่อเกี่ยวกับทหารเรือ เพื่อเลื่อนยศ ตอนนี้ยศเรือเอกแล้วค่ะ คือ เขาต้องไปหลายรอบ ไปดูงานด้วย แล้วต้องดูฤกษ์ด้วย (มีข่าวว่าได้ฤกษ์เดือนมิถุนายน?) ยังไม่ชัวร์ๆ เลย อาจจะเกินกลางปี แต่รอสรุป ก็คงแล้วแต่ทางผู้ใหญ่ค่ะ”
      
       ลั่นไม่กลัวคนมองในแง่ลบ ที่อยู่ๆ ก็ออกมาประกาศแต่งงานกะทันหัน เพราะคบกันมานานแล้ว พร้อมเผยยินดีเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามตามแฟนหนุ่ม
      
       “ไม่ค่ะ เราก็ศึกษากันมานาน อยู่เงียบๆ กัน เราก็ศึกษากันดี ไม่อยากให้มีข่าวมาเกี่ยวข้อง เราก็พร้อมแล้ว อยากให้มองว่าปีนี้เป็นปีทอง ใครๆ ก็อยากแต่ง ป๊อปก็ไปเรียนด้วย (เลยรีบแต่งหรือเปล่า และจะไปอยู่ด้วยไหม?) (หัวเราะ) อาจจะไปเที่ยวและก็กลับมาทำงาน
      
       “เรื่องแต่งคุณแม่เป้ย ก็ได้คุยกับเขาแล้วทางโทรศัพท์ คุณแม่ก็ดีใจ เพราะได้เจอคนที่เขารักเรา ก็เป็นเรื่องธรรมดา เร็วๆ นี้ ก็มีแพลนจะบินไปหาดใหญ่ ไปบ้านเป้ย แต่ก็จะไปเป็นการส่วนตัว ผู้ใหญ่ยังไม่ได้ไปด้วย ก็ขอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อน ถามว่าตื่นเต้นไหม ก็ตื่นเต้นดีใจที่สุดที่จะได้แต่งงาน เป็นความฝันเราที่จะได้แต่งงาน มันเป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้ว แต่จะให้พูดฝ่ายเดียวก็กระไรอยู่ อยากให้เข้าใจยังไงก็ต้องเรียนเชิญพี่ๆ นักข่าวอยู่แล้ว”
      
       “นาทีที่เขาขอแต่งงาน เราเป็นผู้หญิงนะ ไม่ควรพูด แต่ในเมื่อเรารักเขาแล้ว ถามว่า คุกเข่าขอไหม โอ้ยไม่ถึงขนาดนั้น เอาเป็นว่าจะบอกอีกทีแล้วกัน เรื่องแหวนก็ยัง เรื่องจองโรงแรมก็ยังไม่มีเลย แค่ดูว่าถ้าช่วงนี้โรงแรมนี้คนจองเยอะไหม เพราะปีนี้คนแต่งเยอะ เราก็เช็ค ทางป๊อปก็เช็คเองหมดเลย เรื่องการ์ดงานแต่ง ก็ยังไม่ได้คิดเลย อยากให้เป็นเรื่อง 2 คนดีกว่า”
      
       “แต่พิธีทางอิสลามต้องมีแน่นอน เพื่อนๆ ก็มีรู้บ้างอย่าง ครีม เปรมสินี (เรื่องชุดจะตัดทันไหม?) ป๊อป เขาไม่ต้องตัดชุดเพราะเขาใส่ชุดทหารอยู่แล้ว เดี๋ยวดูอีกทีค่ะ ส่วน เรื่องศาสนาในเมื่อเรารักเขาแล้ว ศาสนาอิสลามก็ไม่มีอะไร เพื่อนเป้ยเองก็อิสลามเยอะแยะ เป้ยเองก็เป็นคนใต้ด้วย เป้ยก็ผูกพันกับศาสนาอิสลามด้วย เอาเป็นว่าตอนนี้ขอกินแต่หมูก่อน ถึงตอนนั้นคงไม่ได้กินแล้ว”
      
       เจ้าตัวประกาศปิดเต้างดเซ็กซี่ เพราะเกรงใจครอบครัวฝ่ายชาย
      
       “ที่ผ่านมา ที่ไม่ค่อยรับงานไม่ใช่เพราะเขาแต่เพราะเป้ยเอง ซึ่งมันก็ส่งผลดีกับเขาด้วย เป้ยเกรงใจครอบครัวเขาด้วย เรื่องเซ็กซี่หรือชุดว่ายน้ำคงไม่ถ่ายแล้ว แต่ไม่ถึงขนาดแขวนเต้า (หัวเราะ) เป้ยทำของเป้ยเองไม่เกี่ยวกับเขาขอหรือห้าม ข่าวว่าเขาขี้หึง ก็เป็นธรรมดาเป้ยเองก็ขี้หึง ไม่ใช่เขาคนเดียวหรอก”
      
       “งานเซ็กซี่คงไม่มี แต่งานละครยังมีแน่นอน เราจะโฟกัสเรื่องงานอย่างเดียวอย่างที่เคยบอกไว้นานแล้ว ถือว่าเป็นช่วงชีวิตที่ดีที่สุดของเป้ย แล้วเราก็อยากโฟกัสงานแสดงที่ควรกระทำมากกว่าที่จะมาเซ็กซี่ไปวันๆ เราเองก็ต้องสกรีนงานก่อน มีงานแฟชั่นซัมเมอร์ติดต่อเข้ามาเยอะ แต่ก็ต้องปฏิเสธไป”